Discover
Bon Appetit ธุรกิจรอบครัว

Bon Appetit ธุรกิจรอบครัว
Author: Capital x Salmon Podcast
Subscribed: 178Played: 1,817Subscribe
Share
Description
รายการธุรกิจอาหารที่จะพาเข้าหลังร้านไปสำรวจแนวคิดทางการตลาดของจักรวาลธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ที่จะทำให้ผู้ฟังอร่อย ฟังแล้วท้องหิวแต่อิ่มไปกับเคล็ดและเคสการตลาด
ดำเนินรายการโดย เชอร์รี่-มณีเนตร วรชนะนันท์ อาจารย์ผู้สอนวิชา Introduction to World Cuisine ในมหาวิทยาลัย และหญิงสาวผู้หลงรักอาหาร
122 Episodes
Reverse
แฟนราเมงในบ้านเราหลายคนน่าจะคุ้นเคยชื่อ ปิ๊ปโป้–เปรมวิชช์ สีห์ชาติวงษ์ ในฐานะ Food Blogger และครีเอเตอร์สายอาหารผู้คลั่งไคล้ราเมงเข้าเส้น และเคยรวมลิสต์ร้านราเมงคุณภาพในกรุงเทพฯ ผ่านช่องทางโซเชียลส่วนตัวจนมียอดแชร์หลายหมื่น และนั่นทำให้ใครหลายคนจดจำภาพเขาในฐานะ ‘นักเลงราเมง’
วันหนึ่งเมื่อชายผู้นี้ลุกขึ้นมาป่าวประกาศจะทำร้านราเมงของตัวเอง เลยกลายเป็นที่ฮือฮาในหมู่ผู้ติดตามและอินฟลูเอนเซอร์สายอาหาร
ก่อนหน้านี้เรารู้จักปิ๊ปโป้ ในบทบาทหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Storylog และ Fictionlog แพลตฟอร์มเขียน-อ่านสัญชาติไทย แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจก้าวเท้าเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารคือการได้พบกับหนึ่งในมาสเตอร์ของวงการราเมงในบ้านเราอย่าง เชฟโจ–ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ เจ้าของร้าน Shindo Ramen ในย่านศาลายา
ด้วยความเนิร์ดราเมงทำให้ทั้งสองสนิทสนม จนวันหนึ่งปิ๊ปโป้ที่อยากให้คนในเมืองได้ลิ้มรสราเมงฝีมือเชฟโจ เขาจึงตัดสินใจชักชวนเชฟโจมาร่วมโปรดิวซ์ร้านใหม่ในชื่อ SENDO RAMEN โดยเชฟโจรับหน้าที่ดูแลคุณภาพและรสชาติของราเมง ในขณะที่ปิ๊ปโป้รับอาสาดูแลหลังบ้านและด้านธุรกิจ
รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีรีส์พิเศษ ‘THE HUNGRY GAMES’ จึงชวนปิ๊ปโป้ เจ้าของร้านราเมงป้ายแดงมาพูดคุยถึงการก้าวเท้าเข้าสู่ธุรกิจอาหาร ในปีที่ว่ากันว่าธุรกิจอาหารกำลังเผชิญวิกฤตหนักหน่วงที่สุดครั้งหนึ่ง
แม้ใครหลายคนจะเห็นตรงกันว่าปีนี้ธุรกิจอาหารนั้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่หนึ่งในผู้ที่เปิดประเด็นเรื่อง ‘ปีเผาจริง’ จนถูกพูดถึงในวงกว้างคือ เชฟต้น–ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร จากสเตตัสในเฟซบุ๊กของเขาที่คนแชร์หลายพันจนสื่อหลายสำนักเอาไปต่อยอดพูดคุย
หลายคนรู้จักเชฟต้นในฐานะเจ้าของร้าน Le Du ร้านอาหารไทยที่คว้า 1 ดาวมิชลิน และเคยคว้าอันดับ 1 จาก Asia’s 50 Best Restaurants 2023 มาครอง นอกจากนั้นเขายังเป็นเจ้าของร้านอาหารทั้งในไทยและต่างประเทศรวมกันกว่า 20 แบรนด์ อาทิ นุสรา, หลานยาย Nusara, บ้าน, เมรัย, สมุทร, เทพนคร, นิราศ โดยทุกแบรนด์มีสาขารวมกันกว่า 25 สาขา
เมื่อผู้ประกอบการที่มีร้านและสาขารวมกันมากมายขนาดนี้เป็นเจ้าของวลี ‘ปีนี้เผาจริง’ จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่าเขาเอาตัวรอดยังไงในเกมเกมนี้ที่ธุรกิจร้านอาหารมากมายพากันปิดตัวด้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหว
รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีรีส์พิเศษ ‘THE HUNGRY GAMES’ จึงตั้งใจชวนเชฟต้นมาพูดคุยถึงเรื่องราวเบื้องหลังทรรศนะในเฟซบุ๊กที่มีคนแชร์จนเป็นไวรัล และวิธีการเอาตัวรอดของเขาในเกมเกมนี้
หากเรื่องทำเลหรือขนาดพื้นที่คือความได้เปรียบของร้านอาหารในมุมธุรกิจ เราอาจพูดได้ว่า Locus Native Food Lab ในจังหวัดเชียงราย ยอมปฏิเสธแต้มต่อเหล่านั้น แล้วเลือกฝังตัวในทำเลที่ผู้มาเยือนต้อง ‘ตั้งใจ’ มาเท่านั้น และรับผู้มาเยือนได้อย่างจำกัด.ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เชฟก้อง–ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร เริ่มต้นก่อตั้ง Locus Native Food Lab ด้วยความตั้งใจหลักคือการรักษาภูมิปัญญาอาหารล้านนาโบราณผ่านมื้ออาหาแบบ chef table โดยเขาพยายามใช้วัตถุดิบที่หาได้ในจังหวัดเชียงรายเท่าที่ทำได้ นอกจากนั้นยังออกแบบการนำเสนอต่างๆ อย่างมีศิลปะ ผู้ไปเยือนนอกจากได้ ‘รับประทาน’ แล้วยังได้ ‘รับประสบการณ์’ แสนพิเศษในการนำเสนอ.ไม่แปลกที่ลูกค้าหลายคนเรียกเขาว่า Experince Designer แทนคำว่าเชฟ . นั่นเป็นเหตุผลที่แม้ร้านของเขาจะตั้งอยู่ห่างไกลตัวเมือง คิวจองก็ยังคงเต็มตลอดเวลา หลายคนตั้งใจบินจากต่างจังหวัดเพื่อไปเยือนร้านเขาโดยเฉพาะ และนั่นก็สอดคล้องกับความฝันหนึ่งของเขาที่อยากให้คนมาเที่ยวจังหวัดเชียงรายมากขึ้น.รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีรีส์พิเศษ ‘THE HUNGRY GAMES’ จึงชวนเชฟก้องบินจากเชียงรายมาพูดคุยถึงความคิด ความเชื่อ และการปรับตัวเพื่อให้ร้านอาหารแสนเฉพาะทางอย่าง Locus ยังอยู่รอดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้
“ตอนนี้หนักกว่าโควิด…”
“ปีนี้นี่ฟ้าดินไม่เข้าข้างเลย…”
.
เฮียนพ–สิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล แห่งร้าน ‘รสดีเด็ด by นพ’ ผู้เป็นที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง แสดงความเห็นเมื่อเราชวนคุยถึงวิกฤตของธุรกิจอาหารในปี 2025
.
หลายคนรู้จัก ‘รสดีเด็ด’ ในฐานะร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในความทรงจำที่ผูกพันกันมายาวนาน ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งรุ่นแรกจนถึงวันนี้ ‘รสดีเด็ด’ ยืนระยะมาแล้วเกินครึ่งศตวรรษและมีสาขามากมาย โดยเฮียนพเป็นผู้ดูแล 2 สาขา คือสาขาสามย่าน และสาขาประตูน้ำ โดย ‘รสดีเด็ด by นพ’ ทั้งสองสาขาจุดเด่นคือการมีเมนูปิ้งย่างและหม้อไฟเป็นไฮไลต์เอาใจคนรักเนื้อคุณภาพ
.
ในฐานะผู้ที่ทั้งสวมหมวกผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยวอันต่อยอดจากธุรกิจครอบครัวและหมวกของผู้คลุกคลีอาศัยในย่านอาหารที่หลายคนบอกว่าอยู่ในช่วงขาลงอย่างย่านบรรทัดทอง รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีรีส์พิเศษ ‘THE HUNGRY GAMES’ จึงชวนเฮียนพมาพูดคุยถึงมุมมองต่อแวดวงธุรกิจอาหารและวิธีการเอาตัวรอดในวิกฤตอันหนักหน่วงนี้
ปีนี้จะมีข่าวดีสักข่าวในแวดวงอาหารบ้านเรา–ท่ามกลางการดิ้นรนเอาตัวรอดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ คงเป็นการที่ เชฟแพม–พิชญา สุนทรญาณกิจ แห่งร้าน POTONG ได้รับรางวัล The World’s Best Female Chef 2025 หรือ ‘เชฟหญิงที่ดีที่สุดในโลก’ จากการจัดอันดับของ The World’s 50 Best Restaurants
.
แม้รางวัลจะไม่ใช่สิ่งที่สะท้อนความจริงทุกแง่มุม ยิ่งกับเรื่องอาหารที่ต่างคนต่างชอบแตกต่างกันไป แต่มันก็พอยืนยันได้ถึงความสามารถของเชฟผู้นี้จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในวงการ
.
สิ่งที่น่าสนใจคือการปลุกปั้นร้านอาหารไฟน์ไดนิงท่ามกลางสภาพแวดล้อมแสนคอนทราสต์อย่างย่านสำเพ็ง จากห้างขายยาจีนโพทงของบรรพบุรุษ อาคารโบราณอายุกว่าร้อยปีได้ถูกปรับและปรุง จนกลายเป็นร้านอาหาร Progressive Thai-Chinese ที่พยายามตีความอาหารไทย-จีนของชาวจีนโพ้นทะเลและนำเสนอในรูปแบบร่วมสมัย
.
รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีรีส์พิเศษ ‘THE HUNGRY GAMES’ ที่ชวนเจ้าของร้านอาหารมาพูดคุยกันถึงความคิดความเชื่อในการทำร้านและการเอาตัวรอดในขวบปี ‘เผาจริง’ จึงชวน เชฟแพม–พิชญา และคุณต่อ–บุญปิติ สุนทรญาณกิจ แห่งร้าน ‘POTONG’ มาบอกเล่าเรื่องราววิธีคิดหลังร้าน ในวันที่พวกเขาบอกว่า “วงการร้านอาหารมันเปลี่ยนไปแล้ว”
ถ้าบอกว่า Louis Vuitton, Chanel และ Hermès คือที่สุดแห่งแบรนด์แฟชั่นของประเทศฝรั่งเศส ฟากวงการชา ‘Mariage Frères’ (มาคียาร์จแฟรส์) ก็คงจะเป็นแบรนด์ชาระดับไฮด์เอนที่ดีและเก่าแก่ที่สุดของแดนน้ำหอม
.
สำหรับจุดเริ่มต้นของ Mariage Frères ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1660 หรือเมื่อ 365 ปีก่อน เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงรับสั่งให้ นิโกลาส์ มาคียาจ ออกเดินทางตามหาเครื่องเทศและชาชั้นดีเข้าสู่ประเทศ ก่อนที่ตระกูลมาคียาจจะยึดค้าชาเป็นหลัก โดยที่ยังไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง
.
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปธุรกิจของ Mariage Frères ส่งต่อถึงมือทายาทแห่งตระกูลมาคียาจอย่าง มาร์ธ คอตติน ในวัยชรา ที่ตัดสินใจดึงสองหนักธุรกิจไฟแรง ริชาร์ด บูเอโน่ และ กิตติชาติ แสงมณี มาร่วมสานต่อแบรนด์ชาระดับตำนานนี้ ก่อนจะพลิกโฉมให้ Mariage Frères กลายเป็นแบรนด์ชาที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง พร้อมกับส่งต่อวัฒนธรรมการดื่มชาไปทั่วโลก จนได้รับสมญานามว่า ‘The French Art of Tea’ หรือ ‘ศิลปะแห่งชาของฝรั่งเศส’
.
ปัจจุบัน Mariage Frères แพร่หลายถึง 60 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทยที่มีเมนูเด็ด อาทิ Marco Polo Black Tea Paris-Bangkok Tea, Thailand Thé des Offrandes ฯลฯ คำถามน่าสนใจคือ กลยุทธ์การตีตลาดชาในประเทศไทยของ Mariage Frères นั้นมีทีเด็ดยังไง และโอตกูตูร์แห่งวงการชาแบรนด์นี้ทำยังไงให้ยืนหยัดได้ถึง 365 ปี
.
อย่ารอช้าเตรียมแก้วชาในมือให้พร้อม แล้วมาฟังคำตอบจากคนวงในอย่าง ‘แกม-วิมลพร ชาญพานิชย์ General Manager Mariage Frères Ambassadeur ได้ในรายการ Bonappétit ธุรกิจรอบครัว EP.นี้
ใครที่ไถหน้าฟีดโซเชียลฯ ผ่านไปมาหน้าจะพอสังเกตเห็นว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมามีร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งที่ได้รับความนิยม ภายในร้านดังกล่าวตกแต่งในบรรยากาศสไตล์มินิมอลชวนอบอุ่น พร้อมเสิร์ฟเค้กหลากหลายหน้าตาราวกับหลุดมาจากโลกแฟนตาซี ไม่ว่าจะเค้ก Vanilla Sponge ตกแต่งด้านบนหน้าคุณลุงซานต้าคลอสที่วาดจากบัตเตอร์ครีม เค้กปอนด์ Red Velvet ในรูปแบบต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาไปด้วย Suga Icing ไปจนถึง Cake Box ที่ท็อปปิ้งด้วยคุณสโนว์แมนและคุณขนมปังขิงสุดคิ้วท์
.
ร้านที่เรากำลังพูดถึงมีชื่อว่า ‘Unbirthday Cafe’ ร้านคาเฟ่สุดชิกย่านสุขุมวิท 31 ที่ก่อตั้งโดยสองเพื่อนซี้อย่าง ‘ไบรท์-ณทัย ศิริกันตราภรณ์’ และ ‘ซูม-กฤติน ปูชนียางกูร’ ด้วยความตั้งใจที่อยากมอบความสุขให้กับลูกค้าด้วยเมนูเค้กแสนอร่อยที่ตั้งใจรังสรรค์เป็นพิเศษ ไปจนถึงบรรดาเมนูเบเกอรี่หลากสไตล์ ที่ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันเทศกาล หรือวันธรรมดาก็สามารถอิ่มเอมไปกับความหวานละมุนนี้ได้อย่างเต็มอรรถรส
.
เนื่องในบรรยากาศความสุขช่วงเทศกาลนี้ รายการ Bonappétit ธุรกิจรอบครัว EP.111 เลยขอประเดิมปี 2025 ด้วยเรื่องราวหอมหวานจากไบรท์และซูม ที่จะมาแชร์การบริหารร้าน Unbirthday Cafe ตั้งแต่ Day 1 ที่เริ่มตกแต่งร้าน ไปจนถึงแนวคิดการรังสรรค์เมนูเค้กและเบเกอรี่ ที่กว่าจะออกมาน่ารักอย่างที่เห็นต้องผ่านการทุ่มเทมาไม่น้อย
.
พร้อมแล้วขอเชิญไปเติมความหวานให้กระชุ่มกระชวยกันได้เลย
เผลอแปปเดียวปี 2024 ก็กำลังจะลาลับไปจากเรา ตลอดทั้งปีที่ผ่าน เชอร์รี่–มณีเนตร วรชนะนันท์ โฮสต์คนดีคนเดิมประจำรายการ Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว ได้พาคุณผู้ฟังไปพบกับเรื่องราวหลากรสชาติจากบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหาร เจาะลึกลัดเลาะตั้งแต่กรรมวิธีหลังครัวจนพร้อมเสิร์ฟเมนูจานเด็ดขึ้นโต๊ะ รวมไปถึงเรื่องราวจากผู้คนที่ทำให้โลกธุรกิจอาหารเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน ที่สลับกันมาเล่าเรื่องราวในแต่ละสัปดาห์
.
เป็นประจำเฉกเช่นทุกๆ สิ้นปี ที่ เชอร์รี่-มณีเนตร จะมีของขวัญสุดพิเศษมากฝากคุณผู้ฟัง โดยในปีนี้เธอขออาสาไปพบกับ 10 ร้านอาหารเด็ดในดวงใจที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี แบ่งเป็นร้านอาหารคาว 5 ร้าน และร้านของหวานอีก 5 ร้าน ที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีสตอรี่ที่น่าสนใจ
.
เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมท้องให้ว่าง แล้วไปพบกับ 10 ร้านอาหารเด็ดประจำปี 2024 ได้ในรายการ Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว EP.110 กันได้เลย!
เชื่อหรือไม่ว่าขนมสุดจะธรรมดาอย่าง ‘ลูกอม’ สามารถช่วยแก้ปัญหาใหญ่ระดับโลกอย่าง climate change ได้
.
ร้อยทั้งร้อยน่าจะตอบว่าแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกอมส่วนใหญ่มักผลิตจากน้ำตาลผสมปรุงแต่งด้วยรสชาติฉะนั้นสิ่งที่ลูกอมมอบให้ได้คงมีแต่ความอร่อยหอมหวาน
.
อย่างไรก็ดี แบรนด์ขนมแบรนด์หนึ่งนาม ‘Climate Candy’ ได้หยิบผักและผลไม้หน้าตาไม่น่าอภิรมย์และเกรดไม่ดีพอให้วางจำหน่ายมาแปรรูปเป็นลูกอมรสชาติต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา food waste และ climate change ที่เกิดจากอุตสาหกรรมการเกษตร เพราะผักผลไม้ที่ถูกปัดตกนั้นเหลือทิ้งมากกกว่า 2 แสนล้านปอนด์ต่อปี ไม่ว่าจะมะเขือเทศเนื้อช้ำ ผักกาดใบแหว่ง มันฝรั่งผิวคล้ำ สตรอว์เบอร์รี่ลูกเล็ก ฯลฯ
.
ในช่วงที่สภาวะอากาศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและผู้คนกำลังตระหนักถึงปัญหาสภาพแวดล้อม รายการ bonappétit ธุรกิจรอบครัวตอนนี้ เลยขอชวนมาทำความรู้จักกับ Climate Candy แบรนด์ลูกอม ที่แสดงให้เห็นว่าการทำธุรกิจเกี่ยวกับของกินก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกใบนี้ได้
นอกจากเครื่องดื่มเลิศรส หรือของหวานละมุนลิ้น อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่สาวกร้านกาแฟเจ้าดังอย่าง ‘สตาร์บัคส์’ รู้กันดี คือ ‘tumblur’ หรือ ‘แก้วเก็บอุณหภูมิ’ ที่มักผลิตออกมาดูดเงินในกระเป๋าแทบทุกไตรมาส แถมบางคอลเลคชั่นยังฮอตฮิตกลายเป็นลิมิเต็ด จนต้องมีการแย่งชิง หรือซื้อต่อจากพ่อค้าแม่ค้าในราคารีเซล
.
ความน่าสนใจที่ทำให้แก้วเก็บอุณหภูมิของสตาร์บัคได้รับความนิยม มีมากกว่าเรื่องคุณภาพการใช้งานที่ไม่เป็นสองรองจากแบรนด์แก้วเก็บอุณหภูมิเจ้าอื่นๆ เพราะในแง่ของดีไซน์ยังทำออกมาได้อลังการเกินเบอร์ บางคอลเลคชั่นมีคริสตัลประดับดารอบแก้ว บ้างก็ไล่เฉดสีพร้อมกับแบ่งเลเยอร์ตัววัสดุเป็นแบบใส หรือคอลเลคชั่นที่อิงกับเทศกาลสำคัญอย่างคริสต์มาสต์ก็ทำออกมาได้น่ารักอบอุ่นจนใจเจ็บ
.
ที่สำคัญคือในปี 2024 นี้ สตาร์บัคส์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฐานการตลาดสำคัญของสตาร์บัคส์ ก็เพิ่งจะเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาโหวตบนเว็บไซต์ว่าแก้วเก็บอุณหภูมิเวอร์ชั่นไหนที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 10 ปี ที่สตาร์บัคส์เข้ามาทำการตลาดในแดนอาทิตย์อุทัย ผลปรากฏว่ามีสาวกเข้ามาร่วมโหวตกันอย่างท่วมท้น กลายเป็นการปลุกกระแสและสร้างคอลเลกเตอร์หน้าใหม่เป็นเท่าตัว
.
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เตรียมเครื่องดื่มให้พร้อม แล้วมาร่วมวิเคราะห์แบบจอยๆ ในรายการ bonappétit ธุรกิจรอบครัว ตอนนี้ ว่าทำไมแก้วเก็บอุณหภูมิของสตาร์บัคส์ถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถึงขั้นกลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าทำกำไรให้กับแบรนด์ร้านกาแฟจากสหรัฐฯ เป็นกอบเป็นกำ
บะหมี่มีนาย, ขออนุญาตเก็บงาน, น้ำซุปบอดี้แน่น, พริกถั่วผมจบ ฯลฯ
.
เหล่านี้ คือสารพัดศัพท์ที่ใครติดตามช่อง ‘บางกอกเซียก้า’ น่าจะคุ้นหูเป็นอย่างดี กับลีลาการรีวิวบะหมี่ป๊อกๆ ทั่วราชอาณาจักรของ ‘อีฟ–จิรายุ ศิริ’ และ ‘อ้น–ธีระพงษ์ จันทรภักดี’ ที่ทั้งยียวน และอุดมด้วยมุกตลกสไตล์เด็กหลังห้องตลอดทั้งคลิป
.
ความจริงแล้วบางกอกเซียก้าไม่ได้เพิ่งโด่งดังในปีนี้ เพราะพวกเขานี่แหละคือยูทูบเบอร์สายบุกเบิกยุคต้นๆ ที่ลองผิดลองถูกกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์หลากหลายสไตล์ ก่อนจะมาพบกับสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุดนั่นคือการ ‘รีวิวอาหาร’ โดยเฉพาะการตระเวนรีวิวร้านบะหมี่ป๊อกๆ ที่หากินได้ตามข้างทาง ทั้งจากที่พวกเขาสืบเสาะพบเอง และจากการได้ดาราหรือศิลปินชื่อดังชี้เป้าแนะนำ จนถึงตอนนี้พวกเขารีวิวจนใกล้ครบ 100 ร้านทั่วกรุงเทพฯ แล้ว
.
นอกจากมุกตลกตามสไตล์ชาวร็อกหัวใจมุ้งมิ้ง อีฟและอ้นยังต่อยอดคอนเทนต์รีวิวบะหมี่ป๊อกๆ ที่เป็นภาพจำ มาใช้เป็นหัวใจหลักในการสร้างแบรนดิ้งเพิ่มมูลค่าด้วยวิธีการสุดครีเอต แต่จะเป็นด้วยวิธีไหน และใครที่อยากรู้จักตัวตนของสองเพื่อนซี้คู่นี้มากกว่าที่เห็นนั้น ขอชวนล้อมวงมาหาคำตอบไปพร้อมกันในรายการ Bon Appétit ตอนนี้
รู้ตัวอีกทีร้านฟาสต์ฟู้ดเจ้าดังใกล้บ้านที่เคยฝากท้องประจำก็ปิดตัวลงอย่างน่าใจหาย แต่ไม่ช้าร้านฟาสต์ฟู้ดเจ้าใหม่ก็เข้ามาเปิดแทนที่อย่างรวดเร็ว กลายเป็นวัฏจักรแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนชาชินในสายตาผู้บริโภคอย่างเราๆ
.
อย่างไรก็ดี ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดอย่าง ‘เคเอฟซี’ กลับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าจะสั่นคลอนแต่อย่างใด ปัจจุบันไก่ทอดสูตรผู้พันยังมีสาขาในประเทศไทยมากกว่า 1,060 สาขา กระจายตั้งแต่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปจนถึงทั่วภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลให้เคเอฟซีเป็นแบรนด์ไก่ทอดอันดับ 1 ในไทยที่มีรายได้หลัก 3-4 พันล้านล้านบาทต่อปี
.
ถ้าจะขยายความยิ่งใหญ่ของเคเอฟซีมากกว่าแค่เรื่องตัวเลข คงต้องยกเรื่องของ ‘เมนู’ ที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะ ‘วิงค์แซ่บ’ รสแซ่บซี้ด ที่ดังไกลถึงขั้นกลายเป็นเมนูต้อนรับแขกเหรื่อจากต่างแดน เหมือนกรณีที่ iShow Speed ยูทูปเบอร์ชาวอเมริกันยกให้เคเอฟซีประเทศไทย เป็นเคเอฟซีที่ดีที่สุดในชีวิตที่เคยกิน
.
ด้วยความป็อปปูล่าแบบฉุดไม่อยู่ รายการ bonappétit ธุรกิจรอบครัวตอนนี้ เลยขอชวนคุณผู้ฟังมาถอดกลยุทธ์ของเคเอฟซี จากความสำเร็จตลอด 4 ทศวรรษ ที่ไม่ดีมีดีแค่รสชาติ เพราะยังมีเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับความเป็นไทย ช่องทางที่เข้าถึงง่ายกับทุกคน หรือแม้แต่เรื่องโซเชียลฯ สุดปั่นที่หลายคนคาดไม่ถึง
เสียงกระดิ่งดังมาแต่ไกลลิบ รถเข็นคันสีเขียวค่อยๆ เข็นเข้ามาในซอยโดยลุงคนเดิม เป็นสัญญาณให้เด็กน้อยเตรียมสตางค์มาอุดหนุนไอศครีมกะทิรสหวานนัว มีเครื่องเคียงทั้งถั่วลิสง ข้าวเหนียว ถั่วแดง ฯลฯ ให้เลือกตามอัธยาศัย เพิ่มความอิ่มอร่อย ดับร้อนช่วงบ่ายกันไป
.
ข้างต้นน่าจะเป็น nostalgia ของเด็กยุค 90s ที่มีต่อ ‘ไผ่ทองไอสครีม’ แบรนด์ไอศครีมสไตล์โฮมเมด ซึ่งก่อตั้งโดย ‘กิมเซ้ง แซ่ซี’ ลูกหลานชาวมังกรผู้อพยพเสื่อผืนหมอนใบเข้ามาเป็นลูกจ้างในโรงงานไอศครีมแห่งหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจลาออกเพื่อออกมาเปิดร้านขายไอศครีมเป็นของตัวเอง โดยมีสูตรเด็ดเฉพาะตัวอย่าง ‘ไอศครีมรสกะทิ’ ที่ผลิตจากกะทิเข้มข้นหอมมันถูกปากผู้บริโภค จนรู้ตัวอีกทีก็อยู่คู่คนไทยมาได้กว่า 73 ปีเแล้ว
.
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย และการเข้ามาของเพื่อนบ้านที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจลักษณะเดียวกัน ทว่ารสชาติของไผ่ทองไอสครีมยังคงคุณภาพเหมือนดั่งวันแรก เพิ่มเติมคือกลยุทธ์การขายที่ปรับให้เข้าถึงง่าย จากร้านขายตั้งตู้ สู่รถเข็น ตามด้วยรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างตระเวนขายตามที่ต่างๆ ล่าสุดที่เปิดเป็น ‘ไผ่ทองสเตชั่น’ มีบริการจำหน่ายทั้งแบบบูธ เดลิเวอรี่ และ truck food เสิร์ฟความอร่อยแบบถึงที่
.
ถ้าให้เล่าเองทั้งหมดอาจไม่ครบถ้วนกระบวนความ รายการ bonappétit ธุรกิจรอบครัว EP.105 เลยชวน ‘รตา ชัยผาติกุล’ ทายาทรุ่นที่ 2 ของไผ่ทองไอสครีม มาเล่าถึงเส้นทางความอร่อยของแบรนด์ไอศครีมแบรนด์นี้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงวันที่ต้องยกระดับแบรนด์ไปอีกขั้น ไปพร้อมกับการรักษามาตรฐานเพื่อความสุขของผู้บริโภค
#capital #capitalread #bonappétit #Phaithong #ไผ่ทองไอสครีม
กลายเป็นมหากาพย์อิรุงตุงนังไม่ต่างจากไส้ในแซนด์วิช เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดประเด็นดราม่า ‘SUBWAY’ ในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุเกิดจากผู้บริโภคทั้งขาจรและขาประจำต่างพร้อมใจกันร้องเรียนคุณภาพอาหาร ตั้งแต่รสชาติขนมปังที่ไม่เหมือนเดิม สีจากกระดาษห่อเลอะติดอาหาร กระดาษห่อไม่มีโลโก้ SUBWAY หรือแม้แต่วัตถุดิบขาดแคลนผิดวิสัยร้านอาหารขวัญใจมหาชน
.
ฝุ่นยังไม่ทันหายตลบทางเพจเฟซบุ๊ค SUBWAY Thailand ได้ออกมาชี้แจงถึงดราม่าดังกล่าวโดยระบุว่า จากการตรวจสอบตามข้อมูลที่ลูกค้าร้องเรียนเข้ามา พบว่าสาขาที่ใช้บริการคือสาขาที่ถูกยกเลิกสิทธิ์แฟรนไชส์ไปตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นจำนวน 105 สาขา ซึ่งผู้ที่ออกมาอ้างว่าตนคือผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ SUBWAY แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ก็คือบริษัท PTG Energy
.
คำถามคือก่อนหน้านี้เกิดเรื่องราวอะไรขึ้น เดิมทีแฟรนไชส์ SUBWAY ใครเป็นคนนำเข้ามา ทำไมแบรนด์ระดับ Global ถึงเกิดปัญหาที่ไม่น่าเกิด ปัญหาควรจะถูกคลี่คลายไปในทิศทางใด และข้อกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองแฟรนไชส์ที่คนทำธุรกิจควรรู้มีอะไรบ้าง ทั้งหมดนี้ข้อชวนหาคำตอบแบบจัดเต็มได้ในรายการ Bon Appétit EP.104
“และผู้ที่จะได้เป็นมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ของประเทศไทยในปีนี้ก็คือ ซันจิ และ เอตะ !”
.
สิ้นเสียงการตัดสินจาก 1 ใน 4 คณะกรรมการอย่าง เชฟป้อม-หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล จึงเป็นอันรู้ผลว่า ‘ซันจิ-กรรณปกร อภิบุญอำไพ’ และ ‘เอตะ-เอกตระการ เชี่ยวพัทธยากร’ สองหนุ่มน้อยวัย 11 ปี คือผู้ที่คว้าแชมป์มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 และเป็นแชมป์ร่วมครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของรายการดังกล่าว
.
สำหรับผู้ที่ติดตามรายการมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 น่าจะทราบดีอยู่แล้ว ว่าฝีมือการทำอาหารของเชฟเด็กทั้งสองคนนี้เกินอายุไปไกล ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทคาวหรือหวานก็ตีโจทย์ได้แตก และนำเสนอผลงานออกมาได้ประทับใจคณะกรรมการทุกอาทิตย์ ผนวกกับคาแรกเตอร์สดใส มุ่งมั่น ที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ทำเอาพ่อยกแม่ที่เฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ต่างพากันโดนตกเข้าด้อมไปตามๆ กัน
.
ถึงการแข่งขันจะจบลงแล้ว แต่หลายคนน่าจะอยากรู้จัก ซันจิ และ เอตะ มากกว่านี้ รายการ Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว EP.103 เลยขออาสาพาไปทำความรู้จักกับทั้งสอง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการเข้าครัว เมนูที่ถนัดที่สุด วันที่ตัดสินใจสมัครลงแข่งขันมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ฯ ความฝันในอนาคตที่ยังยืนอยู่บนเส้นทางสายอาหาร และทั้งคู่มากลายเป็นเพื่อนซี้กันตอนไหน
.
บอกเลยว่าการันตีความน่ารัก จนต้องเผลออมยิ้มตลอดทั้งรายการ
โอเด้งร้อนๆ โดนัทครีมสดเนื้อเนียน เมลอนปังกรอบนอกนุ่มใน และนานาสารพัดของทอดเสียบไม้ เหล่านี้เป็นเพียงเมนูยอดฮิตส่วนหนึ่งของ ‘LAWSON’ แบรนด์ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ที่ถูกยกให้เป็นเพื่อนพึ่งพายามหิวของนักเดินทาง
.
ด้วยเมนูสุดครีเอทไม่ว่าจะประเภทหวานหรือคาว ไหนจะเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดีซึ่งวางขายในช่วงเทศกาล ไปจนถึงสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไปที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน นั่นทำให้ LAWSON ครองตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศท่องเที่ยวสำคัญๆ อย่างญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันมีเปิดให้บริการมากกว่า 14,000 สาขา
.
ขณะที่ในประเทศไทยความนิยมในแบรนด์ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวก็ไม่น้อยหน้า หลายต่อหลายครั้งบนโลกโซเชียลฯ มักมีการโพสต์แชร์เมนูเด็ดของ LAWSON ไปจนถึงกระทู้ชวนถกว่า LAWSON สาขาไหนที่มีของกินให้เลือกหลากหลายมากที่สุด
.
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่กระแสไวรัลชั่วครั้งชั่วคราว เพราะหากมองกันที่ภาพรวม LAWSON ถือเป็นร้านสะดวกซื้อในไทยเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ยืนระยะได้อย่างยาวนาน และมีสาขาเปิดรวมกันมากถึง 198 แห่ง ดังนั้นคำถามสำคัญคือกลยุทธ์ใดที่ทำให้ LAWSON ครองใจผู้บริโภคได้อยู่หมัด หาคำตอบได้จาก Bon Appétit ซีซั่น 2 EP.2
ห่างหายกันไปให้พอคิดถึง วันนี้รายการ ‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ กลับมาพบกับแฟนๆ และมิตรรักนักชิมอีกครั้ง พร้อมเรื่องราวสนุกๆ และหลากเทคนิคการบริหารธุรกิจอาหารที่คัดสรรโดย เชอร์รี่-มณีเนตร วรชนะนันท์ Host ของเราเหมือนเช่นเคย
.
ซีซั่นที่ 2 นี้ ประเดิมด้วยรสชาติแซ่บซี้ดจัดจ้านกับ ‘เผ็ดเผ็ด’ ร้านอาหารอีสาน ที่แต่ละเมนู ‘เผ็ด’ และ ‘เด็ด’ สมชื่อ ไม่ว่าจะส้มตำปูปลาร้าที่น้ำปลาร้าหมักเองกับมือ ตำหลวงพระบางรสนัวใส่พริกจัดเต็ม แหนมย่างรสเด็ดที่ไปแล้วไม่กินถือว่าผิด ไปจนถึงอาหารอีสานอีกกว่าร้อยเมนูที่ผ่านการครีเอทรสชาติ และคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน
.
‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ซีซั่นนี้ มณีเนตรจึงขอประเดิมด้วยการพาไปคุยถึงการครีเอทรสชาติของเผ็ดเผ็ด และค้นเคล็ดก้นครกที่ทำให้ร้านอาหารอีสานสไตล์โฮมเมดร้านนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด จนตอนนี้มีร้านเปิดทำการถึง 8 สาขา
ถ้าถามว่าแบรนด์ไหนทำคอลแล็บบ่อยที่สุด เชื่อว่าชื่อของ Carnival ร้านมัลติแบรนด์สัญชาติไทยจะเป็นชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง นอกจากจะคอลแล็บกับแบรนด์ในอุตสาหกรรมเดียวกันแล้ว Carnival ยังโดดเด่นเรื่องการคอลแล็บข้ามสาย ซึ่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมา หากนับนิ้วดูแล้ว Carnival คอลแล็บกับแบรนด์ต่างๆ มาแล้วกว่า 200 แบรนด์กันเลย
การจับมือกับแบรนด์น้อยใหญ่สร้างสรรค์โปรดักต์ใหม่ๆ ออกมายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จับมือกับแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดเจ้าดังอย่าง 'เบอร์เกอร์คิง' ออกแคมเปญ 'BURGER KING MEETS CARNIVAL' ที่ทั้งสองแบรนด์ได้รังสรรค์เบอร์เกอร์เมนูใหม่ในชื่อว่า 'Spicy & Crispy Carnival Burger' ออกมาเอาใจคนไทย และออกคอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเท่ๆ ที่นำสี CI ประจำแบรนด์มาผสมกันอย่างสนุกสนาน
เบื้องหลังการคอลแล็บแสนพิเศษจากสองแบรนด์ดังเป็นมายังไง ก่อนจะออกมาเป็นเมนู BURGER KING MEETS CARNIVAL ได้ต้องคิดอะไรบ้าง การคอลแล็บข้ามสาย โดยเอาของกินกับแฟชั่นมาอยู่ด้วยกันเป็นยังไง รายการ Podcast Bon Appetit ตอนพิเศษนี้จะพาไปสนทนากับ ตุลย์-ชนินทร์ นาคะรัตนาก Digital Marketing Manager บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คิง และ ปิ๊น–อนุพงศ์ คุตติกุล หนึ่งใน Co-founder ของ Carnival ถึงเบื้องหลังของแคมเปญนี้
รู้ไหมว่ากรุงเทพมหานครติดอันดับ 6 ในลิสต์ 20 เมืองที่ดีที่สุดด้านอาหาร ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร Time Out แต่ที่จริง ไม่ต้องมีรางวัลใดๆ มาการันตี ก็เชื่อว่าสำหรับคนไทยที่เรื่องกินเรื่องใหญ่ ก็คงรู้กันดีว่าสตรีทฟู้ดของไทยไม่แพ้ที่ไหน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังมีร้านอาหารทั้งขนาดเล็กและกลางผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดจนบางย่านกลายเป็นสวรรค์ของนักกินไปเลย
‘Bon Appétit ธุรกิจรอบครัว’ ตอนพิเศษนี้จึงพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่าทำไมบางย่านถึงเด่นด้านอาหารกว่าย่านอื่นๆ ทำไมบางย่านถึงมีรสชาติความเป็นจีนสูง รวมถึงแนะนำ 21 ร้านเล็กร้านอร่อยใน 7 ย่านดัง ที่ถ้าไม่รู้จะกินเมนูดังโดยไม่ต้องต่อคิวหรือหาที่จอดรถยังไง ก็ยังลิ้มรสความอร่อยของย่านได้ที่บ้านง่ายๆ แค่สั่งผ่านแอป Robinhood ที่ให้บริการ Food Delivery ซึ่งกลับมาเปิดอีกครั้ง พร้อมสนับสนุนร้านเล็กๆ ให้โตไปด้วยกัน
หรือถ้าไม่รู้จะกินอะไรดี ในแอปก็ยังมีร้านเล็กที่น่าสนับสนุนอีกเพียบ และถ้าหากใครสั่งร้านโปรดีดีพลัส และร้านโปรดีดีถึง 250 บาทขึ้นไป ใส่โค้ด KINARAIDEE ก็รับส่วนลดไปเลย 50 บาท แต่โค้ดพิเศษนี้มีจำนวนจำกัด และใช้งานได้ถึง 16 ตุลาคม 2567 เท่านั้น ถ้าไม่อยากตกขบวนความอร่อยก็เข้าแอป Robinhood แล้วไปสั่งกันเลย go.rbh.app/PAgI/ktufaf3y
หลายครั้งที่เมื่อข้อมูลการจัดอันดับอาหารยอดนิยมของโลกออกมา หลายคนน่าจะเคยสงสัยว่าเขาวัดกันจากอะไร การจัดอันดับแบบนี้มีที่มาที่ไปยังไง และข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน
.
รายการพ็อดแคสต์ Bon Appétit EP.100 ตอนนี้ มณีเนตร วรชนะนันท์ จะพาไปไขคำตอบทั้งหมด ตั้งแต่ไปดูว่าอาหารชาติไหนกันแน่ที่เป็นขวัญใจของชาวโลก ในแต่ละการจัดอันดับมีวิธีการยังไง จนถึงอาหารไทยอยู่ตำแหน่งไหนของอาหารโลก
.
และหลังจากพ็อดแคสต์ Bon Appétit ของเราเดินทางมายาวนานกว่า 100 ตอน ครั้งนี้เราจึงอยากขอแจ้งให้ทุกท่านและแฟนๆ ทราบว่าเราจะพักเบรกเป็นระยะเวลา 2 เดือน และกลับมาใหม่ในรูปแบบที่เต็มอิ่ม อร่อย และถึงพริกถึงขิงกว่าเดิม ส่วน EP.100 จะจัดเต็มแค่ไหน ไปฟังกัน