DiscoverEND GAME เกมที่แพ้ไม่ได้
END GAME เกมที่แพ้ไม่ได้
Claim Ownership

END GAME เกมที่แพ้ไม่ได้

Author: THE STANDARD

Subscribed: 51Played: 393
Share

Description

วิเคราะห์การเมืองไทยรายสัปดาห์ด้วยข้อมูลเชิงลึกส่งตรงจากแหล่งข่าว วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์เพื่อเป้าหมายพาการเมืองไทยสู่ระบอบประชาธิปไตย กับ บรรณาธิการข่าว THE STANDARD
72 Episodes
Reverse
พรรคสีน้ำเงิน (พรรคภูมิใจไทย) กำลังมีกระแสความนิยมสูงขึ้นอย่างมากจนเกินกว่าคำว่า ขาขึ้น ด้วยการวางตำแหน่งทางการเมืองอย่างมีกลยุทธ์ ขณะที่พรรคสีส้ม (พรรคประชาชน) แม้ยังคงแข็งแกร่งด้านบุคลากร แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากกลยุทธ์ของคู่แข่งและประเด็นประชามติที่ซับซ้อน ส่วนพรรคสีแดง (พรรคเพื่อไทย) ถูกประเมินว่ากำลังประสบปัญหาสมาชิกและฐานเสียงไหลออกอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถหยุดยั้งภาวะเลือดไหลนี้ได้ สถานะการเป็นหนึ่งในสามก๊กทางการเมืองอาจสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม หากดูผลสำรวจของนิด้าโพล คะแนนนิยมของพรรคสีแดงกลับเพิ่มขึ้น ราวกับว่า ‘เพื่อไทย ตายยาก’นอกจากนี้ ผลกระทบของประชามติหลายฉบับ โดยเฉพาะเรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตก็เป็นได้ ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดมีการเสนอโมเดลการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จาก 3 พรรคการเมืองหลัก โดยโมเดลของพรรคประชาชน (สีส้ม) เน้นการเลือกตั้งจากประชาชน ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (สีน้ำเงิน) และพรรคเพื่อไทย (สีแดง) เน้นการคัดเลือกผ่านกลไกรัฐสภาคนคาดการณ์ว่าโมเดลของพรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มที่จะได้รับการผลักดันให้สำเร็จมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันกุมความได้เปรียบทางการเมืองและเสียงข้างมากในรัฐสภา ส่วนพรรคประชาชนเดินเกมการเมืองพลาดซ้ำ ทั้งในการจัดตั้งรัฐบาลและการเสนอโมเดลแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้เสียเปรียบและอาจไม่สามารถควบคุมทิศทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้มิหนำซ้ำ พรรคสีแดงกับส้มที่เป็นฝ่ายค้าน แต่บางคนมองว่าเป็นฝ่ายแค้น หลังเปิดศึกสาดกันไปมา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอนุทิน 4 เดือนหลังจากนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์สำคัญว่าจะยุบสภา เพื่อเลือกตั้งในปี 2569 หรือไม่ และจะทำตามภารกิจที่ประกาศตามคำแถลงนโยบายหรือเปล่า ชวนคิด ติดตาม และวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
อนุทินออกมาสยบข่าวลือโผ ครม. สะดุด เนื่องจากรัฐมนตรีบางคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เดินหน้าลุยงาน ทำงานในฐานะรัฐบาลเต็มที่ ท่ามกลางการตรวจสอบจากฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จ้องจะเล่นงานทุกฝีก้าว หากบิดเบี้ยว MOA ที่เซ็นสัญญากันไว้กับพรรคประชาชนขณะที่ภารกิจสำคัญของพรรคสีน้ำเงิน คือการเร่งแก้ปัญหาปากท้อง, มาตรการเศรษฐกิจ, แผนแก้ปัญหาชายแดน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กระนั้นก็ถูกมองว่า บรรดาพรรคอนุรักษนิยมเริ่มมีกระแสเบนไปทางพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งอาจเข้าทางในการรวมเสียงตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็นได้ด้านพรรคสีส้มและสีแดง ต่างเร่งสร้างผลงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในครั้งหน้า ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศ ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรถึง 311 เสียง ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่ตัดขาดจากนโยบายเศรษฐกิจที่เคยเน้นการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งเสริมการส่งออก เมื่อผู้นำคนใหม่ประกาศนโยบายบริหารประเทศที่มุ่งเน้นความสมดุลในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับชาติอย่างไรก็ตาม สังคมยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดว่า รัฐบาล 4 เดือนของพรรคภูมิใจไทย จะทำตาม MOA ที่สัญญาไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีมาตรา 112 กับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558 โดยศาลเห็นว่าหลักฐานคลิปวิดีโอเป็นเพียงบางส่วนของคำสัมภาษณ์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการตัดต่อ และคำพูดไม่ได้เจาะจงถึงพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกันศาลตั้งข้อสังเกตว่าพยานโจทก์อาจมีลักษณะอคติ จึงยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย อย่างไรก็ตาม ทักษิณยังมีคดีความกรณีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน ให้จับตาอยู่ส่วนคดีของแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของทักษิณ กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลได้นัดชี้ชะตาในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ในคดีคลิปเสียงฮุนเซน ซึ่งเป็นคดีที่ถกเถียงกันว่ามีพฤติกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ามีความผิด จะส่งผลให้แพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที นับเป็นคดีที่มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลและการเมืองไทยในช่วงนี้อย่างมากโดยผลการยกฟ้องคดีของทักษิณ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อตำแหน่งทางการเมืองของแพทองธาร เพราะเป็นการตัดสินใจที่ให้ความสำคัญกับพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ และอาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีของแพทองธารในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ด้วยเช่นกัน หลายคนต่างมองไปในทางเดียวกันว่า เป็นโค้งสุดท้ายของสองพ่อ-ลูก ตระกูลชินวัตร การเมืองไทยจะพลิกเกม หรือจมอยู่กับความซ้ำซาก ชวนวิเคราะห์และติดตามไปพร้อมกัน
คดี ‘แพทองธาร-ทักษิณ ชินวัตร’ กลายเป็นบททดสอบสำคัญของการเมืองไทยในปี 2568 กับการชิงชนะหรือแพ้ในลมหายใจสุดท้ายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ที่ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม พร้อมเสียงเรียกร้องให้ลาออก หรือยุบสภาภายใต้แรงกดดันจากการถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาลและศาลรัฐธรรมนูญ คดีอุ๊งอิ๊ง-ทักษิณ กลายเป็นสมรภูมิชี้อนาคต ไม่ว่าชิงลาออกหรือดึงเกมยาว ทุกทางเลือกล้วนเขียนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยใหม่การตัดสินใจว่าจะ “ชิงลาออก” หรือ “สู้ต่อ” ของอุ๊งอิ๊ง จึงไม่ใช่เพียงเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่หมายถึงการตอบคำถามใหญ่ของสังคมต่อระบบการเมือง กระบวนการยุติธรรม และอนาคตของความมั่นคงทางการเมืองที่ยังเต็มไปด้วยความเปราะบางและความขัดแย้งที่ยาวนานการเดิมพันอนาคตประชาธิปไตยกับทางเลือกชี้ชะตา การเมืองไทยจะพลิกเกม หรือจมอยู่กับความซ้ำซาก ชวนวิเคราะห์และติดตามไปพร้อมกัน
เดือนสิงหาคมอาจเป็นเดือนที่ชี้ชะตาอนาคตของพ่อลูกตระกูลชินวัตร เนื่องจากทักษิณกำลังเผชิญกับคดีมาตรา 112 ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ส่วนแพทองธารก็กำลังเจอกับคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งคาดว่าอาจตัดสินในปลายเดือนสิงหาคมเช่นกันดังนั้น จึงเป็นช่วงเวลาหนักหน่วงและมีผลกระทบอย่างมากต่อเสถียรภาพรัฐบาล กลุ่มการเมืองหลัก และภูมิทัศน์การเมืองไทยอย่างกว้างขวาง ทั้งยังมีผลต่อเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในบริบทชายแดนไทย-กัมพูชาอีกด้วยสถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงสมรภูมิของศรัทธา ความยุติธรรม และทิศทางของประเทศ ที่ประชาชนและนักการเมืองต่างจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมความเป็นไปได้ของความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งระดับรัฐบาลและพรรคการเมือง
ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาที่ปะทุตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง แม้ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีข้อกล่าวหาที่อ้างว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อนแม้กองทัพบกไทยจะเน้นย้ำว่า กัมพูชาเป็นผู้เริ่มยิงก่อนโดยอาวุธระยะไกลยิงต่อเป้าหมายพลเรือน และทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเสียหายของพลเรือนที่ยอมรับไม่ได้ แต่กัมพูชายังคงพยายามนำเสนอข้อมูล ท่ามกลางการบิดเบือนข้อมูล จนถูกตั้งคำถามจากคนไทยในแง่มุมการสื่อสาร ซึ่งรัฐบาลเริ่มตอบโต้อย่างมากขึ้นอย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวอาจไม่จบง่ายๆ ด้วยเหตุผลที่อาจไม่ใช่แค่ข้อพิพาท แต่อาจเป็นผลประโยชน์บางอย่าง โดยเฉพาะตระกูลฮุน ที่ต้องการอยู่ก็เป็นได้
ประเด็นการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ทั้งภายใต้ชื่อกฎหมายนิรโทษกรรม และกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีกฎหมายที่ถูกเสนอผ่านวาระรับหลักการ 3 ร่าง ได้แก่ ร่างพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ 2 ร่างจากอดีตพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันพรรคประชาชน) และภาคประชาชน ที่รวมคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกตีตกเกิดการตั้งคำถามมากมายว่าพรรคเพื่อไทยเลือกปฏิบัติกับประชาชนหรือเปล่า หรือจะเป็นนิรโทษกรรมฉบับทิ้งใครไว้ข้างหลังหรือไม่ แม้จะออกมาชี้แจงว่าเป็นการปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-แดงก็ตาม ท่ามกลางเสถียรภาพรัฐบาลที่ยังคงสั่นคลอน ราวกับเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ศึกในยังไม่จบ ศึกนอกกำลังรออยู่ ทั้งคดีชั้น 14 มาตรา 112 ของทักษิณ รวมถึง แพทองธาร ชินวัตร ด้วยเช่นกัน
ไล่หนูซื้องูเห่า เกมชิงอำนาจสภาไทย เมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ร้องเพลงแทนคำตอบ “หนูเปล่านะ เขามาเอง” นี่คือคำตอบที่ชัดเจนของการแก้ไขเสถียรภาพของรัฐบาลคำถามสำคัญคือเวลานี้มีใครกล้าการันตีจำนวนสส.ในมือ และรูปธรรมที่สุดคือการประชุมสภาที่ปริ่มน้ำแทบทุกครั้ง
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/KVQCJBhnE_Y.รัฐบาลมีไว้ทำไม? คำถามนี้มีคำตอบซับซ้อนและขึ้นอยู่กับมุมมองทางการเมือง.ถ้าถามคาร์ล มาร์กซ์ คงตอบว่า รัฐบาลเป็นเครื่องมือของนายทุนและชนชั้นนำเพื่อรักษาอำนาจ ถ้าถามนักคิดแนวเสรีนิยม คงตอบว่า รัฐบาลทำหน้าที่บริหารประเทศ สร้างความมั่นคง ประกันสิทธิ เสรีภาพของประชาชน จัดสรรทรัพยากร พัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายเพื่อความเรียบร้อย.วันนี้ คงไม่ใช่เรื่องถกเถียงว่าคำตอบไหนถูกต้องที่สุด แต่ประเด็นสำคัญคือ เราจะนิยามให้รัฐบาลเป็นแบบไหน หากอยากให้ทำหน้าที่บริหารประเทศ ในบริบทของการเมืองไทยในปัจจุบัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยอาจไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ แต่ถ้าคิดว่ารัฐบาลเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำเพื่อรักษาอำนาจ รัฐบาลเพื่อไทยก็น่าจะทำหน้าที่นี้ได้อยู่ แต่จะนานแค่ไหน คงไม่มีใครกล้ารับประกัน.#แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #คณะรัฐมนตรี #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #ภูมิใจไทย #ยุบสภา #ลาออก #เลือกตั้ง #ทักษิณ #เนวิน #การเมือง #TheStandardNews #EndGame
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/NkTuuC0sWUsการเมืองไทยเหมือนมีระเบิดเวลาฝังอยู่หลายลูกจนทายไม่ถูกว่าลูกไหนจะระเบิดก่อนกัน ตั้งแต่การแทรกแซงจากภายนอกโดยสมเด็จฮุน เซน ที่ขยันทิ้งระเบิดอยู่ตลอดเวลา ไปจนถึงองค์กรอิสระและพรรคฝ่ายค้านหน้าใหม่ พรรคภูมิใจไทย สถานการณ์การเมืองเวลานี้ยากจะคาดเดา มีแต่เกมเสี่ยง และไม่ส่งผลดีต่อประเทศในภาพรวม
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คลิปเสียงคุยกับ ฮุน เซน คือของจริง ปมพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองหลังบ้าน มุ่งรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความโกลาหลและการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนอย่างมาก ราวกับว่าประเทศไทยเสียเหลี่ยมให้ประเทศกัมพูชาเสียแล้ว ท่ามกลางสังคมไทยที่เชื่อถือรัฐบาลในการตอบสนองต่อสถานการณ์ทำให้พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญที่พรรคเพื่อไทยต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ประกาศถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยยืนยันหนุนกองทัพ เพื่อธำรงรักษาอธิปไตย ดินแดน และประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทางอย่างสุดกำลัง ราวกับว่าทิศทางของรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ว่าจะเดินเกมหรือเดินหน้าไปทางไหนก็เจอกับขวากหนาม สะดุดหกล้มตลอดเวลา ชวนอ่านเกมและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน เวลา 15.30 น.
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คดีชั้น 14 อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และการปรับคณะรัฐมนตรี ทั้ง 3 เรื่องใหญ่นี้ผูกโยงกันเป็นเรื่องเดียวคือคำว่า ‘Trust’ สังคมไทยไม่เชื่อถือรัฐบาลในการตอบสนองต่อสถานการณ์ สังคมไทยไม่เชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมในการบังคับโทษอดีตนายกฯ ทักษิณ และสังคมไทยไม่เชื่อถือการปรับคณะรัฐมนตรีว่าจะได้หน้าตา ที่เรียกความเชื่อมั่น เพราะมีแต่ข่าวรวมตัวแยกก๊วนกันเพื่อต่อรองเก้าอี้ครม. ชุดใหม่
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี สาเหตุจากข้อพิพาทเขตแดนและการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ทับซ้อน โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มใช้อาวุธก่อน ส่วนฝ่ายไทยชี้แจงว่าเป็นการยิงแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำ ไม่ใช่การยิงปะทะ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย และนำไปสู่การเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์บริเวณชายแดนทั้งสองประเทศมีข้อตกลงสำคัญ เช่น บันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมกัน รวมถึงการใช้กลไกทวิภาคี แม้จะมีกลไกและข้อตกลงในการแก้ไขปัญหา แต่สถานการณ์ยังคงเปราะบาง และต้องอาศัยความอดทนและความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในการหาทางออกอย่างสันติ ปัญหาสำคัญที่หลายคนกำลังจับตาคือ ท่าทีของผู้นำฝั่งรัฐบาลอย่าง แพทองธาร ชินวัตร กับฟากกองทัพบก ที่ดูเหมือนว่าการสื่อสารและชุดความคิดหลายๆ อย่างจะไม่สอดคล้องกัน แม้จะออกมาเปิดเผยว่าไม่มีปัญหา แต่อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า การสื่อสารที่ล่าช้าและไม่ชัด หรือการสื่อสารที่สุดโต่ง ส่งผลกระทบต่อการกำหนดทิศทางชุดความคิดของสังคมไทยที่เกิดเสียงแตกขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่าจะปรับแน่นอน 100% อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การขยับท่าทีความมั่นคงล่าช้าหรือไม่ ชวนติดตามและร่วมวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
การเมืองไทยหลายคนสงสัยรัฐบาลนี้จะอยู่กันไปจนครบวาระหรือจะมีความเปลี่ยนแปลงใหญ่เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความขัดแย้งผ่านสงครามตัวแทนระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย คงไม่มีใครตอบคำถามนี้แบบฟันธงได้จากข่าวทั้งทางลับและทางแจ้งรายงานไปในทางเดียวกันว่า พรรคเพื่อไทยมีความคิดจะขอต่อรองเอากระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย อยู่กันต่อไปแต่ขอกระทรวงมหาดไทยคืนแต่เพื่อไทยต้องแลกกับอะไร เป็นคำตอบที่ยังต้องติดตามกันต่อไป
การสู้รบกันระหว่างแดง-น้ำเงิน คู่ขนานไปกับนิติสงคราม พาการเมืองไทยเดินมาถึงจุดที่ยากจะคาดเดา แต่เสี่ยงอันตรายอย่างมากนิติสงครามเล่นงานนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง คิวล่าสุดคืออดีตนายกรัฐมนตรี ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ต้องชดใช้เงินกว่าหมื่นล้านบาทจากโครงการจำนำข้าวคิวต่อไปที่ต้องจับตามองคืออดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร กรณีชั้น 14 ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็สะเทือนการเมืองไทยทั้งสิ้นแต่ที่สะเทือนที่สุดจนถึงขั้นน่ากลัวคือ การออกมาเปิดชื่อ 2 ส. ผู้ยิ่งใหญ่ของ ณฐพร โตประยูร ระหว่างการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ถ้าชื่อนั้นตรงกับที่หลายคนคาดเดา ก็น่าตกใจมากว่าเกมนี้คืออะไร มันจะไปจบแบบไหน แค่คิดก็น่ากลัว
การเมืองไทยหนึ่งวันพันเรื่องเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอยู่ 4 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคกล้าธรรมทุกพรรคการเมืองมีจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ทุกวันนี้มีบางพรรคเอาจุดแข็งของตัวเอง อันได้แก่ อำนาจรัฐ อำนาจทุน มาห้ำหั่นกัน ผลสรุปสุดท้ายไม่รู้ใครจะชนะ แต่ระหว่างทางประชาชนแพ้ราบคาบกระบวนการยุติธรรมไทยขาดความเชื่อมั่น การเมืองไทยน่าเบื่อ วนในอ่าง และไร้ความหวัง
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/bmezuH2TZS0ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ประเด็นร้อนที่สะท้อนสภาพสังคมไทยในปัจจุบันอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นกรณีแพทยสภา ที่กำลังเผชิญกับคำถามถึงจรรยาบรรณและบทบาทในยุคที่สังคมต้องการความโปร่งใส ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกลับมาของ ทักษิณ ชินวัตร แต่ก็ยังคงมีบทบาทอยู่บน ‘ชั้น 14’ ที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปตามขั้นตอนปกติหรือไม่ในอีกด้าน งบประมาณซ่อมรัฐสภาที่พังซ้ำซากก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวในการจัดการงบประมาณของภาครัฐ ขณะที่กระแสข่าวการ ‘ฮั้ว’ โหวต สว. ก็ยิ่งทำให้ภาพของระบอบประชาธิปไตยไทยดูมีปัญหาอีกฟากเมื่อหันมามองในระดับท้องถิ่น แม้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะได้รับเสียงสนับสนุนถล่มทลายเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยภาพลักษณ์ผู้ว่าฯ ขยัน ทำงานเชิงรุก แต่วันนี้หลายคนเริ่มตั้งคำถามถึงผลงานที่เป็นรูปธรรม กรุงเทพฯ ดีขึ้นจริง หรือแค่เปลี่ยนวิธีสื่อสารการเมืองไทยในวันนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคล แต่คือระบบที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงราก ชวนติดตามและร่วมวิเคราะห์ไปพร้อมกัน วันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
ประเทศไทยมองไปทางไหนก็ดูมัวหมอง น่าจะเป็นความรู้สึกของผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ การเมืองไทยก็ยังไม่มีอะไรใหม่วนเวียนติดอยู่ที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ หลังศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทำให้สถานการณ์จะออกหัวออกก้อยได้ทั้งนั้น ถ้าศาลบอกว่ากระบวนการไปอยู่ชั้น14 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ต้องกลับเข้าเรือนจำ แต่ถ้าศาลบอกว่าทุกอย่างชอบด้วยกฎหมายเรื่องนี้ก็จบไปการเมืองไทยอยู่ในสถานการณ์รอวันชี้ชะตาอีกครั้ง ทักษิณจะอยู่หรือไปต้องจับตานับจากนี้
loading
Comments