เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดมหาอุทกภัยที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นสถานการณ์วิกฤตแม้ว่าน้ำจะเริ่มลดลงจนแห้งแล้ว แต่ความเสียหายต่อทรัพย์สินและบ้านเรือนของประชาชนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ท่ามกลางข้อสังเกตว่ารัฐบาลดำเนินการล้มเหลวและขาดความเป็นเอกภาพหรือไม่ ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดการยุบสภา อาจไม่เกิดขึ้นตามไทม์ไลน์เดิมคือ 31 มกราคม 2569 ภายหลัง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณพร้อมยุบสภาวันที่ 12 ธันวาคมนี้หากฝ่ายค้านมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตาม มาตรา 151 แต่ถ้ายื่นมาตรา 152 ก็พร้อมอยู่กันจนครบยกที่ตกลงกันไว้ โดยแบไต๋เตรียมพระราชกฤษฎีกายุบสภาไว้แล้ว ท่ามกลางชะตากรรมทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยขณะที่แต่ละพรรคการเมืองก็ทยอยเปิดตัวผู้สมัครชิงเลือกตั้งปี 2569 แล้ว ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีประเด็นอย่างต่อเนื่อง หลังอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ประกาศระงับทุกการดำเนินการตามข้อตกลงร่วมระหว่างสองประเทศดังกล่าว หลังจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้บาดเจ็บ 2 นาย โดยหนึ่งในนั้นมีอาการข้อเท้าขวาขาด ส่วน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ตัดสินใจเลื่อนการมอบตัวเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย ขณะเดียวกับ ปัญหาปราบปรามสแกมเมอร์ยังคงมีเรื่องน่าติดตาม เพราะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองไทย โดยเฉพาะปมทุนเทา-ฟอกเงิน ที่เอี่ยวกับพรรคการเมือง ร่วมติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด เจาะกลยุทธ์ สู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 ฉบับ The Power Game ในแบบ ‘หนุ่มเมืองจันท์’ สรกล อดุลยานนท์ โดย จาก 3 พรรคการเมือง ได้แก่ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (แพทองธาร ชินวัตร) พรรคเพื่อไทย และ ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดการเมืองไทยยังคงมีประเด็นให้จับตาอย่างต่อเนื่อง แม้หลายคนจะมองไทม์ไลน์การยุบสภาในปลายเดือนมกราคม 2569 เพื่อไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลย คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในเงื่อนไข MOA พรรคประชาชน-พรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้เริ่มมีเกมซ้อนเกม
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดพรรคเพื่อไทยมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ หลังแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำให้ฝั่งสีแดงจะต้อสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพื่อเป็นผู้นำลุยศึกเลือกตั้งใหญ่ปี 2569 ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมเดินหมากยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมืองอย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยของอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจไม่ยอมง่ายๆ หลังมีกระแสข่าวลือว่าอาจชิงยุบสภาก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติซักฟอก เพื่อให้รัฐบาลไม่มีบาดแผลทางการเมือง และพร้อมสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าให้มากที่สุด หากยุบสภาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม คือสิ้นเดือนมกราคม 2569 จะทำให้ประชาชนไทยต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งเร็วขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีประเด็นต่อเนื่อง ลามไปสู่เรื่องสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ที่อาจเกี่ยวข้องกับนักการเมืองไทย และผู้มีอำนาจในกัมพูชา ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดการพิจารณารับร่างแก้ไข รธน. ดูจะกลายเป็นประเด็นที่ต้องจับตา หลังสภาตีตกร่างของพรรคเพื่อไทย รับเพียงพรรคประชาชน-ภูมิใจไทย จนในที่สุดเราได้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในการผลักดันอย่างเซอร์ไพรส์ตลอดการอภิปรายตลอด 2 วัน มีข้อสังเกตว่าการพิจารณาครั้งนี้จะเป็นแค่พิธีกรรมหรือไม่ เนื่องจากมีข้อกังวลจากฝั่ง สว. โดยเฉพาะคุณพิสิษฐ์ ในฐานะวิปวุฒิสภาว่าร่างของพรรคประชาชนนั้นเป็นฉบับเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หลังส่อเจตนาแก้หมวด 1-2 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันทว่ายังมีความเห็นของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ชวนจับตาดูในร่างแก้ไขสุดท้ายที่จะลงมติในวาระ 3 ว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากมีการร้อง และอยู่ระหว่างวินิจฉัย จะนำไปทำประชามติพร้อมเลือกตั้งไม่ได้ดังนั้นจึงกลายเป็นเหมือนหมากที่สีน้ำเงินได้วางไว้เสมือนว่า สกัดฝั่งเพื่อไทย ล่อซื้อโดยให้ความหวังพรรคประชาชนก่อนปัดตกภายหลังจึงเป็นเหตุให้ท้ายที่สุดแล้วอาจจะเกิดความขัดแย้งระหว่างส้ม-น้ำเงินที่ทำ MOA ร่วมกัน และอาจนำมาสู่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือจะเกิดการชิงยุบสภาก่อน
พรรคสีน้ำเงิน (พรรคภูมิใจไทย) กำลังมีกระแสความนิยมสูงขึ้นอย่างมากจนเกินกว่าคำว่า ขาขึ้น ด้วยการวางตำแหน่งทางการเมืองอย่างมีกลยุทธ์ ขณะที่พรรคสีส้ม (พรรคประชาชน) แม้ยังคงแข็งแกร่งด้านบุคลากร แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากกลยุทธ์ของคู่แข่งและประเด็นประชามติที่ซับซ้อน ส่วนพรรคสีแดง (พรรคเพื่อไทย) ถูกประเมินว่ากำลังประสบปัญหาสมาชิกและฐานเสียงไหลออกอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถหยุดยั้งภาวะเลือดไหลนี้ได้ สถานะการเป็นหนึ่งในสามก๊กทางการเมืองอาจสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม หากดูผลสำรวจของนิด้าโพล คะแนนนิยมของพรรคสีแดงกลับเพิ่มขึ้น ราวกับว่า ‘เพื่อไทย ตายยาก’นอกจากนี้ ผลกระทบของประชามติหลายฉบับ โดยเฉพาะเรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตก็เป็นได้ ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดมีการเสนอโมเดลการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จาก 3 พรรคการเมืองหลัก โดยโมเดลของพรรคประชาชน (สีส้ม) เน้นการเลือกตั้งจากประชาชน ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (สีน้ำเงิน) และพรรคเพื่อไทย (สีแดง) เน้นการคัดเลือกผ่านกลไกรัฐสภาคนคาดการณ์ว่าโมเดลของพรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มที่จะได้รับการผลักดันให้สำเร็จมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันกุมความได้เปรียบทางการเมืองและเสียงข้างมากในรัฐสภา ส่วนพรรคประชาชนเดินเกมการเมืองพลาดซ้ำ ทั้งในการจัดตั้งรัฐบาลและการเสนอโมเดลแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้เสียเปรียบและอาจไม่สามารถควบคุมทิศทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้มิหนำซ้ำ พรรคสีแดงกับส้มที่เป็นฝ่ายค้าน แต่บางคนมองว่าเป็นฝ่ายแค้น หลังเปิดศึกสาดกันไปมา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอนุทิน 4 เดือนหลังจากนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์สำคัญว่าจะยุบสภา เพื่อเลือกตั้งในปี 2569 หรือไม่ และจะทำตามภารกิจที่ประกาศตามคำแถลงนโยบายหรือเปล่า ชวนคิด ติดตาม และวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
อนุทินออกมาสยบข่าวลือโผ ครม. สะดุด เนื่องจากรัฐมนตรีบางคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เดินหน้าลุยงาน ทำงานในฐานะรัฐบาลเต็มที่ ท่ามกลางการตรวจสอบจากฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จ้องจะเล่นงานทุกฝีก้าว หากบิดเบี้ยว MOA ที่เซ็นสัญญากันไว้กับพรรคประชาชนขณะที่ภารกิจสำคัญของพรรคสีน้ำเงิน คือการเร่งแก้ปัญหาปากท้อง, มาตรการเศรษฐกิจ, แผนแก้ปัญหาชายแดน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กระนั้นก็ถูกมองว่า บรรดาพรรคอนุรักษนิยมเริ่มมีกระแสเบนไปทางพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งอาจเข้าทางในการรวมเสียงตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็นได้ด้านพรรคสีส้มและสีแดง ต่างเร่งสร้างผลงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในครั้งหน้า ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศ ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรถึง 311 เสียง ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่ตัดขาดจากนโยบายเศรษฐกิจที่เคยเน้นการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งเสริมการส่งออก เมื่อผู้นำคนใหม่ประกาศนโยบายบริหารประเทศที่มุ่งเน้นความสมดุลในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับชาติอย่างไรก็ตาม สังคมยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดว่า รัฐบาล 4 เดือนของพรรคภูมิใจไทย จะทำตาม MOA ที่สัญญาไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ ชวนติดตามและวิเคราะห์ไปพร้อมกัน
เปิดพอดแคสต์เอพิโสดนี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีมาตรา 112 กับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558 โดยศาลเห็นว่าหลักฐานคลิปวิดีโอเป็นเพียงบางส่วนของคำสัมภาษณ์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการตัดต่อ และคำพูดไม่ได้เจาะจงถึงพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกันศาลตั้งข้อสังเกตว่าพยานโจทก์อาจมีลักษณะอคติ จึงยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย อย่างไรก็ตาม ทักษิณยังมีคดีความกรณีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน ให้จับตาอยู่ส่วนคดีของแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของทักษิณ กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลได้นัดชี้ชะตาในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ในคดีคลิปเสียงฮุนเซน ซึ่งเป็นคดีที่ถกเถียงกันว่ามีพฤติกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ามีความผิด จะส่งผลให้แพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที นับเป็นคดีที่มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลและการเมืองไทยในช่วงนี้อย่างมากโดยผลการยกฟ้องคดีของทักษิณ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อตำแหน่งทางการเมืองของแพทองธาร เพราะเป็นการตัดสินใจที่ให้ความสำคัญกับพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ และอาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีของแพทองธารในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ด้วยเช่นกัน หลายคนต่างมองไปในทางเดียวกันว่า เป็นโค้งสุดท้ายของสองพ่อ-ลูก ตระกูลชินวัตร การเมืองไทยจะพลิกเกม หรือจมอยู่กับความซ้ำซาก ชวนวิเคราะห์และติดตามไปพร้อมกัน
คดี ‘แพทองธาร-ทักษิณ ชินวัตร’ กลายเป็นบททดสอบสำคัญของการเมืองไทยในปี 2568 กับการชิงชนะหรือแพ้ในลมหายใจสุดท้ายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ที่ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม พร้อมเสียงเรียกร้องให้ลาออก หรือยุบสภาภายใต้แรงกดดันจากการถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาลและศาลรัฐธรรมนูญ คดีอุ๊งอิ๊ง-ทักษิณ กลายเป็นสมรภูมิชี้อนาคต ไม่ว่าชิงลาออกหรือดึงเกมยาว ทุกทางเลือกล้วนเขียนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยใหม่การตัดสินใจว่าจะ “ชิงลาออก” หรือ “สู้ต่อ” ของอุ๊งอิ๊ง จึงไม่ใช่เพียงเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่หมายถึงการตอบคำถามใหญ่ของสังคมต่อระบบการเมือง กระบวนการยุติธรรม และอนาคตของความมั่นคงทางการเมืองที่ยังเต็มไปด้วยความเปราะบางและความขัดแย้งที่ยาวนานการเดิมพันอนาคตประชาธิปไตยกับทางเลือกชี้ชะตา การเมืองไทยจะพลิกเกม หรือจมอยู่กับความซ้ำซาก ชวนวิเคราะห์และติดตามไปพร้อมกัน
เดือนสิงหาคมอาจเป็นเดือนที่ชี้ชะตาอนาคตของพ่อลูกตระกูลชินวัตร เนื่องจากทักษิณกำลังเผชิญกับคดีมาตรา 112 ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ส่วนแพทองธารก็กำลังเจอกับคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งคาดว่าอาจตัดสินในปลายเดือนสิงหาคมเช่นกันดังนั้น จึงเป็นช่วงเวลาหนักหน่วงและมีผลกระทบอย่างมากต่อเสถียรภาพรัฐบาล กลุ่มการเมืองหลัก และภูมิทัศน์การเมืองไทยอย่างกว้างขวาง ทั้งยังมีผลต่อเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในบริบทชายแดนไทย-กัมพูชาอีกด้วยสถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงสมรภูมิของศรัทธา ความยุติธรรม และทิศทางของประเทศ ที่ประชาชนและนักการเมืองต่างจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมความเป็นไปได้ของความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งระดับรัฐบาลและพรรคการเมือง
ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาที่ปะทุตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง แม้ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีข้อกล่าวหาที่อ้างว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อนแม้กองทัพบกไทยจะเน้นย้ำว่า กัมพูชาเป็นผู้เริ่มยิงก่อนโดยอาวุธระยะไกลยิงต่อเป้าหมายพลเรือน และทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเสียหายของพลเรือนที่ยอมรับไม่ได้ แต่กัมพูชายังคงพยายามนำเสนอข้อมูล ท่ามกลางการบิดเบือนข้อมูล จนถูกตั้งคำถามจากคนไทยในแง่มุมการสื่อสาร ซึ่งรัฐบาลเริ่มตอบโต้อย่างมากขึ้นอย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวอาจไม่จบง่ายๆ ด้วยเหตุผลที่อาจไม่ใช่แค่ข้อพิพาท แต่อาจเป็นผลประโยชน์บางอย่าง โดยเฉพาะตระกูลฮุน ที่ต้องการอยู่ก็เป็นได้
ประเด็นการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ทั้งภายใต้ชื่อกฎหมายนิรโทษกรรม และกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีกฎหมายที่ถูกเสนอผ่านวาระรับหลักการ 3 ร่าง ได้แก่ ร่างพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ 2 ร่างจากอดีตพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันพรรคประชาชน) และภาคประชาชน ที่รวมคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกตีตกเกิดการตั้งคำถามมากมายว่าพรรคเพื่อไทยเลือกปฏิบัติกับประชาชนหรือเปล่า หรือจะเป็นนิรโทษกรรมฉบับทิ้งใครไว้ข้างหลังหรือไม่ แม้จะออกมาชี้แจงว่าเป็นการปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-แดงก็ตาม ท่ามกลางเสถียรภาพรัฐบาลที่ยังคงสั่นคลอน ราวกับเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ศึกในยังไม่จบ ศึกนอกกำลังรออยู่ ทั้งคดีชั้น 14 มาตรา 112 ของทักษิณ รวมถึง แพทองธาร ชินวัตร ด้วยเช่นกัน
ไล่หนูซื้องูเห่า เกมชิงอำนาจสภาไทย เมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ร้องเพลงแทนคำตอบ “หนูเปล่านะ เขามาเอง” นี่คือคำตอบที่ชัดเจนของการแก้ไขเสถียรภาพของรัฐบาลคำถามสำคัญคือเวลานี้มีใครกล้าการันตีจำนวนสส.ในมือ และรูปธรรมที่สุดคือการประชุมสภาที่ปริ่มน้ำแทบทุกครั้ง
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/KVQCJBhnE_Y.รัฐบาลมีไว้ทำไม? คำถามนี้มีคำตอบซับซ้อนและขึ้นอยู่กับมุมมองทางการเมือง.ถ้าถามคาร์ล มาร์กซ์ คงตอบว่า รัฐบาลเป็นเครื่องมือของนายทุนและชนชั้นนำเพื่อรักษาอำนาจ ถ้าถามนักคิดแนวเสรีนิยม คงตอบว่า รัฐบาลทำหน้าที่บริหารประเทศ สร้างความมั่นคง ประกันสิทธิ เสรีภาพของประชาชน จัดสรรทรัพยากร พัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายเพื่อความเรียบร้อย.วันนี้ คงไม่ใช่เรื่องถกเถียงว่าคำตอบไหนถูกต้องที่สุด แต่ประเด็นสำคัญคือ เราจะนิยามให้รัฐบาลเป็นแบบไหน หากอยากให้ทำหน้าที่บริหารประเทศ ในบริบทของการเมืองไทยในปัจจุบัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยอาจไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ แต่ถ้าคิดว่ารัฐบาลเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำเพื่อรักษาอำนาจ รัฐบาลเพื่อไทยก็น่าจะทำหน้าที่นี้ได้อยู่ แต่จะนานแค่ไหน คงไม่มีใครกล้ารับประกัน.#แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #คณะรัฐมนตรี #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #ภูมิใจไทย #ยุบสภา #ลาออก #เลือกตั้ง #ทักษิณ #เนวิน #การเมือง #TheStandardNews #EndGame
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/NkTuuC0sWUsการเมืองไทยเหมือนมีระเบิดเวลาฝังอยู่หลายลูกจนทายไม่ถูกว่าลูกไหนจะระเบิดก่อนกัน ตั้งแต่การแทรกแซงจากภายนอกโดยสมเด็จฮุน เซน ที่ขยันทิ้งระเบิดอยู่ตลอดเวลา ไปจนถึงองค์กรอิสระและพรรคฝ่ายค้านหน้าใหม่ พรรคภูมิใจไทย สถานการณ์การเมืองเวลานี้ยากจะคาดเดา มีแต่เกมเสี่ยง และไม่ส่งผลดีต่อประเทศในภาพรวม
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คลิปเสียงคุยกับ ฮุน เซน คือของจริง ปมพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองหลังบ้าน มุ่งรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความโกลาหลและการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนอย่างมาก ราวกับว่าประเทศไทยเสียเหลี่ยมให้ประเทศกัมพูชาเสียแล้ว ท่ามกลางสังคมไทยที่เชื่อถือรัฐบาลในการตอบสนองต่อสถานการณ์ทำให้พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญที่พรรคเพื่อไทยต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ประกาศถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยยืนยันหนุนกองทัพ เพื่อธำรงรักษาอธิปไตย ดินแดน และประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทางอย่างสุดกำลัง ราวกับว่าทิศทางของรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ว่าจะเดินเกมหรือเดินหน้าไปทางไหนก็เจอกับขวากหนาม สะดุดหกล้มตลอดเวลา ชวนอ่านเกมและวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน เวลา 15.30 น.