Discover
Friendtalkative Podcast
1679 Episodes
Reverse
มีคนมาปรึกษาว่า เราเป็นคนที่ทำให้ความสัมพันธ์มันพังทุกครั้ง พอเรารู้สึกว่าเราไม่สำคัญ เราจะบอกเลิกแล้วตัดจบทันที แล้วมานั่งเสียใจกับความใจร้อนของเราเองตลอดเลย เราจะทำยังไงดีคะ เราไม่อยากเป็นคนใจร้อนแบบนี้เลย เรามีปมกับความรักครั้งแรก มันเลยทำให้เราเป็นคนแบบนี้ค่ะ
- ถ้าเราจะโทษว่าเพราะคนก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ครั้งก่อน สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย
- เราทุกคนล้วนต้องรับผิดชอบทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก่อนหน้านี้ ไม่ควรให้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่รับหน้าที่นี้แทน
- ความรู้สึกว่าไม่สำคัญเป็นปมปัญหาในวัยเด็ก เกรงว่าจะไม่ใช่มาจากความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเพียงอย่างเดียว
- ทุกอย่างกำหนดที่ความคิดเรา มันเริ่มต้นที่ความคิดของเราทั้งหมด ไม่มีอะไรที่ไม่ได้เริ่มจากความคิดเลย
- สังเกตตัวเองว่า ในช่วงวัยเด็กนั้นเรามีความคิดอย่างไร พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาอย่างไร แล้วเราคบเพื่อนอย่างไรด้วย
ข้อความโพสต์จาก Simon Sinek ได้เขียนข้อความไว้ว่า "การหาข้ออ้างไม่ได้ช่วยให้สิ่งต่าง ๆ มันดีเยี่ยมขึ้น พวกเขามีเพียงแค่ข้อเสนอที่ดูมีเหตุมีผลเพื่อเลี่ยงบาลีเท่านั้นเอง"
- ข้ออ้างไม่ได้ช่วยอะไรให้ชีวิตนั้นดีขึ้นได้เลย
- แล้วหากว่าเราไม่สนใจความจริง เราจะไม่ได้รับอะไรอีกต่อไป
- ข้อเสนอที่ดูมีเหตุมีผลนั้น ก็เป็นเพียงแค่การบ่ายเบี่ยงของวาจาแค่นั้น
- ปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ก็คือ ไม่มีอะไรที่จะจริงเท่ากับการกระทำของเราเลย
- สังเกตคนให้สังเกตที่การกระทำเป็นหลัก เพราะบางคนหาข้ออ้างมามากมายเพื่ออะไรก็ไม่รู้
หนังสือ Web3: The Insights You Need from Harvard Business Review ของ Harvard Business Review
- เว็บ 3 หรือ เว็บที่ไม่มีศูนย์กลางข้อมูลเป็นของตัวเองทั้งหมด
- กระดูกสันหลังของคำว่า Decentralize ก็คือการสร้างเว็บ 3 นี่เอง
- จุดเริ่มต้นมันมาจากการที่เราเริ่มมีการเจาะข้อมูลในระบบจากผู้ที่ไม่หวังดีนั่นก็คือ Hacker
- มันจึงเป็นตัวแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด แถมเว็บไซต์เหล่านี้ประมวลผลอย่างรวดเร็วขึ้นเยอะมาก
- ระบบบล็อกเชน หรือระบบเว็บ 3 ล้วนมีที่มาจากการที่เราต้องการลดตัวกลางหรือ middleman
มีคนมาปรึกษาว่า ถ้าเราสวย เก่ง งานมั่นคง โลกจะใจดีกับเรามากกว่านี้ใช่ไหมคะ คำนี้คนเขามักจะพูดกันอยู่ตลอด
- คำว่าถ้า มันพูดได้หมด ถ้ารวย ถ้าดี ถ้าเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วความจริงล่ะ
- การติดพูดคำว่า ถ้าอย่างนั้นก็คงจะดีกว่านี้เป็นคำที่อันตรายอย่างยิ่งในชีวิต
- เหมือนว่าที่มันอันตรายไม่ใช่เพียงแค่คำ แต่มันหมายถึงว่าเรามักจะมองสิ่งที่ตัวเองขาด และเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอ
- ซึ่งความเป็นจริงแล้ว แต่ละคนมีดีมีเสียต่างกัน ไม่ใช่ว่าเราต้องดีอย่างนั้นอย่างนี้ ชีวิตจึงจะดี เพราะบางคนมีดีทุกอย่าง คิดไม่ได้ก็มี
- ชีวิตมวลรวมอยู่ที่ค่าเฉลี่ย ถ้าหากว่าเราทำค่าเฉลี่ยของชีวิตได้ดี ยังไงชีวิตก็ย่อมดีแน่นอน ไม่ใช่ว่ามีอะไรดีแล้วจะดี คิดใหม่ ถามใหม่ แล้วชีวิตจะดีจริง
ข้อความโพสต์จาก Nassim Nicholas Taleb ได้เขียนข้อความไว้ว่า "การนำทุกการสมรู้ร่วมคิดไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนที่คิดได้ด้วยตัวเอง หรือว่ามีชั้นเชิงในการคิดวิเคราะห์แต่อย่างใด แต่มันทำให้คุณดูขาดความคิดที่มั่นคงและไม่มีวิจารณญาณใด ๆ เลย"
- ไม่ใช่ว่าเราจะไปนำเอาความคิดของกลุ่มคนกลุ่มนึงที่มีชื่อเสียง แล้วตัดสินว่าเราก็มีความคิดที่น่าเชื่อถือตาม
- ขบคิดให้ได้ว่า อะไรเป็นข้อมูลที่น่าทำตามหรือไม่น่าทำตามอย่างยิ่ง เพราะสองสิ่งนี้แตกต่างกัน
- สังเกตให้ดีว่าอะไรเป็นการสมรู้ร่วมคิดของชุดความรู้นั้น การเออออห่อหมกไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นจริง
- ความมั่นคงและการดูมีวิจารณญาณนั้น จำเป็นจะต้องดูวิถีทางของกลุ่ม ๆ นั้นด้วยเสมอ แล้วต้องเลือกใช้ด้วยตัวเองทั้งหมด
- ฟังหูไว้หู ไม่เชื่อทั้งหมดที่ได้ยินมา และไม่ปฏิเสธทุกความคิดของผู้คนในสังคม เลือกเชื่อ เลือกคิด และเลือกทำ
หนังสือ Life in Five Senses: How Exploring the Senses Got Me Out of My Head and Into the World ของ Gretchen Rubin
- ประสาทสัมผัสทั้งห้า ก็คือสิ่งที่รับรู้ของสิ่งที่มากระทบ แล้วมันมีแค่นั้นเองในชีวิต
- การตีความของอารมณ์และเหตุผลนั้น จำเป็นจะต้องตีความจากสิ่งที่ปรากฏขึ้นมา
- มีสติตื่นรู้ว่า อะไรเป็นเหตุที่ทำให้เราสุขหรือทุกข์ ถ้ามันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เข้ามากระทบ เราก็ไม่ต้องตีอกชกหัวมาก
- ชีวิตประจำวันเป็นทั้งหมดของชีวิตเรา สิ่งที่เป็นสิ่งเร้า ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้น ความเร้าใจ พวกนั้นไม่จีรังยั่งยืน
- เพลินเพลินไปกับชีวิต สิ่งที่อยู่ในหัวเรามันเป็นเพียงแค่ภาพมายา สิ่งที่จริงคือสิ่งที่เราอยู่กับมันตรงนี้ และกำลังสัมผัสมันอยู่
มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ ตอนนี้กำลังตัดสินใจเลิกกับแฟนที่คบกันมา 6 ปี ปัจจุบันเราอายุ 23 ปีค่ะ มีลูกด้วยกัน 1 คน สาเหตุที่เลิกเพราะวิถีชีวิตต่างกัน นิสัยอะไรก็ต่างกันด้วย พยายามปรับกันมาตลอดแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดจริง ๆ ค่ะ คุยกันตกลงกันทุกอย่างโอเคแล้ว ทั้งเขาและเราก็ยังรักกันอยู่มาก แต่ก็คุยกันด้วยเหตุผลว่ายังไงก็คงไปกันไม่รอดดันทุรังไปก็มีแต่จะยิ่งแย่ลง ทำยังไงดีคะ เขาเป็นคนแรกครั้งแรกและคนเดียวจนปัจจุบันนี้ แต่ตอนนี้ก็จบกันด้วยดีนะคะ เสียใจร้องไห้ทั้งวันเลย ขอวิธีให้ออกจากวังวนนี้ไว ๆ หน่อยค่ะ
- ครั้งแรกมักจะเจ็บมากกว่าปกติเสมอ ขอให้สู้ต่อไปตามสิ่งที่ได้ตัดสินใจเถิด
- สังเกตตัวเองให้ได้ว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร เลิกไปแล้วจะทำยังไงกับชีวิตและลูกน้อยต่อไป
- ไม่แน่ใจเรื่องอะไรให้ปรึกษาผู้รู้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่พอที่จะพึ่งพาได้ แบบนี้จะช่วยได้มาก
- มองไกลเข้าไว้ แน่นอนว่าการตัดสินใจในเรื่องบางเรื่องมันยาก แต่มันจะผ่านไปได้ถ้าเรามองเป็น
- ฝึกฝนที่จะเผื่อใจกับชีวิตเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะลงเอยกับแฟนคนแรก สามีหรือภรรยาคนแรกเสมอไป
ข้อความโพสต์จาก Nassim Nicholas Taleb ได้เขียนข้อความไว้ว่า "หากว่าการที่คุณพร่ำบอกว่าคุณนั้นมีอิสรภาพแล้ว กระนั้น สิ่งนั้นแปลว่าคุณยังไม่ได้มีมันจริง มันคือการหยิบความไม่มั่นคงภายในจิตใจเพื่อที่จะให้ภาพลักษณ์ได้ดื่มกิน"
- ความลุ่มลึกของการตระหนักรู้ของตนเอง ก็คือการเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำอาจจะหมายถึงเราขาดสิ่งนั้น
- เมื่อเราขาดสิ่งใด เรามักจะเห็นจุดบอดของตัวเองชัดกว่าคนอื่น นั่นแปลว่าเรามักจะแสดงออกสิ่งที่เราขาด
- มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเติมเต็มตัวเองผ่านคำชมเพียงอย่างเดียว การยอมรับตนเองเป็นส่วนที่สำคัญมาก
- สังเกตให้มากว่า ความคิดและจิตใจของเรานั้นเป็นอย่างไร เราควรตระหนักว่าทุกคนย่อมมีปมปัญหาชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
- ภาพลักษณ์นั้นหิวกระหายการได้ดื่มกินอัตตาตัวตนของเราเอง สร้างภาพลักษณ์อย่างถูกวิธีแล้วเราจะมีความสุขในระยะยาว
หนังสือ Fertility Rules: The Definitive Guide to Male and Female Reproductive Health ของ Leslie Schrock
- การจะมีลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก เรื่องราวต่าง ๆ มาย้ำเตือนเราว่าต้องการอะไร
- เมื่อเรารู้แล้วว่าเราต้องการอะไร เราก็จึงต้องหาวิถีทางเพื่อมีสิ่งนั้นให้ได้ ก็เท่านั้น
- สำหรับคนที่ต้องการมีลูก ร่างกายที่แข็งแรงคือแม่บทของทุกสรรพสิ่ง รวมไปถึงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
- การนับวันไข่ตกจำเป็นจะต้องสังเกต อุณหภูมิของร่างกาย และสังเกตเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างรอบเดือน
- ยุคสมัยใหม่มักจะมีเทคโนโลยีคัดแยกเพศ รวมไปถึงการทำให้มีลูกง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันจะช่วยลดเวลากังวลไปได้มาก
มีคนมาปรึกษาว่า คิดยังไงกับคนที่เข้ามาคุยกับเราแล้วทำให้เรารู้สึกดีบ้างคะ พอเราเริ่มเปิดใจ เขาก็หายไปเลย ทีนี้ไอเราก็คิดถึงแต่เขา รอว่าเมื่อไหร่เค้าจะตอบแช็ต ไม่ยอมอ่านเลย อีนี่ก็ทักไปอยู่นั่นแหละ แช็ตหนักขวา ขอวิธีออกจากตรงนี้หน่อยค่ะ พยายามทำอยู่แต่มันก็อดใจไม่ได้ ส่องเขาอยู่นั่น หรืออีกวิธีหนึ่งทำยังไงให้เขากลับมาคุยกับเราอีกคะ
- ความสุขในชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สมหวังเสมอไป ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะบอกแบบนั้น
- รักษากายรักษาใจไว้ให้ดี ๆ เก็บไว้ให้กับคนที่ใช่จะดีที่สุด เพราะโลกจะเหวี่ยงคนที่ใช่มาเมื่อถึงเวลา
- ใคร ๆ ก็อยากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่จะมีสักกี่คนที่จะได้ในสิ่งเหล่านั้น สังเกตตัวเองว่าทำไมเขาถึงเทเรา
- ประสบการณ์จะสอนใจเราว่า ยิ่งเราชอบใครมาก คนนั้นจะยิ่งไม่ชอบเรา พยายามรักษาสมดุลให้มากที่สุด
- เขาจะมาชอบเรา ยืนเฉย ๆ เขาก็ชอบ ส่วนคนที่เขาไม่ชอบเรา ต่อให้เราวิ่งไล่ตามเขาแค่ไหนสุดท้ายก็เป็นได้แค่นั้น
ข้อความโพสต์จาก Mark Manson ได้เขียนข้อความไว้ว่า "การเป็นผู้ฟังที่ดีมิใช่ เป็นการฟังเฉย ๆ แต่มันคือการใส่ใจความรู้สึกร่วมกันกับอารมณ์ด้วย ผู้คนมักจะไม่ต้องการให้แก้ไขปัญหาใด ๆ ไปมากกว่าหาคนฟังที่ดีเท่านั้นเอง"
- การฟังและการฟังที่ดีนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้เอาไว้บ้าง
- โลกใบนี้ย่อมมอบบางสิ่งให้กับคนที่มีดีกับตนเอง ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้ฟังที่ดีได้
- บางคนไม่สนใจความคิดของคนอื่น ไม่คิดจะฟังอะไร อยากทำอะไรก็ทำตามใจของเขาไป
- เมื่อเราสังเกตชีวิตดี ๆ เราจะค้นพบว่าผู้คนมากมายอาจจะต้องการแค่ผู้ฟังที่ดีเท่านั้น
- ไม่มีอะไรที่เราจะเรียนรู้ได้เท่ากับการที่เราตระหนักรู้ถึงความรู้สึกของผู้คนแวดล้อมเราได้เลย
หนังสือ 500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1 วิทยาศาสตร์ของอารมณ์ ความรัก ความเกลียดชัง ของ ชัชพล เกียรติขจรธาดา
- วิทยาศาสตร์มาช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น หนังสือเล่มนี้ทำหน้าที่นั้น
- ผู้ชายกับผู้หญิงทำไมถึงต้องแตกต่าง แล้วความแตกต่างนี้มันดีหรือไม่อย่างไร
- จุดดึงดูดทางเพศที่แตกต่างกันไปในแต่ละสิ่งมีชีวิต เพียงเพราะการรับรู้นั้นต่างกัน
- การปฏิสัมพันธ์ทางคำพูด ทางกาย หรือทางใดก็ตามล้วนเป็นการสื่อสารที่มีมานานแล้ว
- เรียนรู้ให้ได้ว่า โลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ มันเป็นทั้งเหตุและผลของสิ่งมีชีวิต
มีคนมาปรึกษาว่า ผิดไหมคะที่เรากลับไปมีอะไรกับแฟนเก่าที่เพื่งเลิกกันได้แค่อาทิตย์เดียว คือแฟนเก่าเขานอกใจไปมีคนอื่นแล้วก็มาบอกเลิกเรา แต่เมื่อคืนเราไปมีอะไรกับเขาแบบนี้ผิดศีลข้อ 3 ไหมคะ
- ยังดีที่รู้จักศีลข้อ 3 แต่จริง ๆ ถ้าจะดีให้รู้จักคำว่าศีลแปลว่าอะไรจะดีกว่า
- เมื่อเราห่างไกลจากคำว่าปกติ นั่นก็แปลว่าเรามีโอกาสศีลขาดหรือศีลด่างพร้อยได้
- คนเราต้องรู้จักหักห้ามใจ ถ้าเกิดว่าเราอ้างว่าแฟนเก่าเลิกไปแค่อาทิตย์เดียว แล้วคนทั้งโลกอ้างแบบเดียวกับเราจะเกิดอะไรขึ้น
- ปัญหาใหญ่ของมนุษย์ก็คือ เราไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ถึงแม้เราจะทำไปแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรตามมาบ้าง
- ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เราเสี่ยงต่อการด้อยค่าตัวเอง การเลิกกับแฟนแล้วไปมีอะไรก็คือการลดคุณค่าตัวเอง แบบนี้ไม่ต้องเป็นแฟนก็ไปมีอะไรกันได้
ข้อความโพสต์จาก Mark Manson ได้เขียนข้อความไว้ว่า "5 หนทางที่จะรับมือกับคนที่เห็นแก่ตัว คือ 1. ออกห่าง 2. อย่าพยายามโน้มน้าวว่าเขาผิดให้ออกห่างเข้าไว้ 3. อย่าพยายามไปแก้ไขอะไรในตัวเขาให้ออกห่างลูกเดียว 4. อย่าถกเถียงกับเขาให้ออกห่างอยู่เสมอ และ 5. ออกห่างแบบไม่ต้องคิด"
- การอยู่กับคนเห็นแก่ตัวก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราถูกดึงให้ตกต่ำลง
- ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งคนที่เห็นแก่ตัวก็มักจะดูดพลังเราไปจนหมดตัวอยู่ดี
- ยิ่งเราไปเปลี่ยนความคิดของคนที่เขาอยากจะคิดแบบนั้น หรือตั้งใจจะคิดแบบนั้นเราจะเสียพลังงานโดยใช่เหตุ
- รับรู้ให้ได้ว่าใครบ้างที่นิสัยอย่างไร เราจะรับมืออย่างไรได้นั้นก็อยู่ที่สติของเรามากที่สุด
- ออกห่าง ออกห่าง และออกห่าง คาถาที่เราจะเปลี่ยนทุกสิ่งให้ดีขึ้นได้
หนังสือ Smart Sex ของ Emily Morse
- เจ้าแม่พอดแคสต์อันดับหนึ่ง Sex with Emily ได้นำความรู้มาให้ทุกคู่รักทุกคู่
- เซ็กซ์เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้จากโลกใบนี้ ก็เพียงเพราะเราจะไม่ยอมสูญพันธุ์โดยเด็ดขาด
- ใช้ปัญญาในการร่วมรักกัน ไม่จำเป็นจะต้องใช้อารมณ์ร่วมรักกันตลอด มันคือวิถีของการมีเซ็กซ์อย่างถูกวิธี
- มันไม่แปลกที่เราจะไม่ชอบเรื่องเซ็กซ์ แล้วก็มีหลายคนที่รู้สึกว่าไม่ชอบพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่ยังไงมันก็จำเป็นอยู่ดี
- การศึกษาเรื่องบนเตียงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งมีชีวิต บางทีมันคือเงื่อนงำที่มอบให้กับเราซึ่งเป็นผู้มาก่อนกาล
มีคนมาปรึกษาว่า อยากซื้อหนังสือให้พี่ แต่ไม่รู้ซื้อเล่มไหนดี โดยส่วนมากเขาจะอ่านพวกประเภทพัฒนาชีวิต หรือวางแผนทางการเงินค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
- อย่างแรกเลยติดตามเว็บไซต์ suppakitk.com ก่อนเลยจะได้ติดตามเพจพัฒนาชีวิตและการเงิน
- หนังสือที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา มักจะเป็นหนังสือที่เข้ามาหาเราก็ต่อเมื่อเราต้องการมันจริง ๆ
- เมื่อนักเรียนพร้อมครูจะปรากฏตัว ซึ่งเจ้าตัวคนให้ก็ให้หาหนังสืออ่านไปควบคู่กันไป
- ไม่มีหนังสือไหนที่ดีที่สุด มีแต่หนังสือที่จะส่งผลกระทบมวลรวมกับชีวิตเราในอนาคตสืบไป
- วิชาการตัดสินใจเลือกอะไรให้ดีที่สุดมีอยู่ข้อเดียว สังเกต สังเกต และสังเกต ว่าหนังสือเล่มไหนสอนอะไรให้กับเราได้จริง
ข้อความโพสต์จาก Mark Manson ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ทุกความสัมพันธ์มันก็มักจะมีช่วงที่ดีและช่วงที่แย่ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะประเมินจากจุดสูงสุดของความรู้สึกว่าเป็นฐานของความสัมพันธ์ แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเป็นช่วงที่แย่มันจะเห็นภาพชัดกว่ากันเยอะเลย"
- ความสัมพันธ์ก็เหมือนกับทุกสิ่งในชีวิต มันมีช่วงที่ดีและช่วงที่ไม่ดี
- ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มีการเกิดขึ้น ก็ย่อมมีการดับไปเป็นเรื่องธรรมดา
- ตื่นตระหนกไม่ใช่สิ่งที่ควร แต่หากเราตระหนักว่าจุดฐานของความสัมพันธ์มันอยู่ตรงไหน
- สังเกตให้ได้ว่าสถานการณ์ของใจเราอยู่ตรงไหน รักมาก รักน้อย เฉย ๆ หรืออย่างอื่น
- ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดใดของความสัมพันธ์ นั่นเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เราต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หนังสือ Trade Stocks and Commodities with the Insiders: Secrets of the COT Report ของ Larry R. Williams
- ตลาดฟิวเจอร์ (Futures) ก็คือตลาดที่คล้ายอนุพันธ์ทำหน้าที่คาดการณ์อนาคตว่าราคาจะไปทิศใด
- ทุกตลาดจะเป็นเหมือนกันหมด ต่างเพียงแค่นิสัยของตลาดนั้นเท่านั้นเอง
- สังเกตกราฟว่าสินค้า สินทรัพย์ รวมไปถึงหุ้นที่เราถือครองมีทิศทางขึ้นหรือลง
- อนุพันธ์ควรจะเทรดในจุดที่แม่นยำเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะมีเครื่องทุ่นแรง (Leverage) ที่สูง
- ไม่โลภไม่กลัวและไม่ยอมแพ้ ท่องไว้เลยคาถาป้องกันหายนะมาถึงพอร์ตของเรา
มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ อยากถามว่าตอนนี้มีแพลนที่จะเรียนต่อ แต่เราตัวคนเดียวไม่มีใครช่วยเหลืออะไรเท่าไหร่ เราคิดมากเพราะถ้าเรียนก็จะไม่มีเงินจ่ายค่าห้องค่ากินของตัวเอง ควรทำยังไงดีคะ
- เรื่องเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
- ยิ่งยุคสมัยนี้แล้ว การเล่าเรียนจึงเป็นเรื่องรองจาก เรื่องเงินอีกทีหนึ่งด้วยซ้ำไป
- ไม่มีใครจะมาแจ้งเตือนเราว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเราในอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุดพอ
- รับรู้ เรียนรู้ แล้วก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองว่า การศึกษาไม่ได้จำกัดแค่ใบปริญญา
- ถ้าเราไม่มีเงิน ก็ให้เรียนรู้แบบไม่มีเงินไม่ใช่ว่าให้เรียนรู้แบบคนมีเงิน เพราะนั่นแปลว่าเราไม่รู้อยู่ อยู่เป็น
ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เมื่อไม่กี่ปีก่อน บางคนที่บริษัท Bridgewater ได้เสนอเกี่ยวกับแผนกดูแล ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งปลูกสร้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมันควรเริ่มต้นแจ้งให้ฝ่ายเทคโนโลยีทราบ แล้วให้ควบสองตำแหน่ง ก็คือเกี่ยวกับไฟฟ้าและการดูแลไปพร้อมกัน ทว่า การมีผู้คนที่ช่วยรับผิดชอบเรื่องการทำความสะอาด และการทำอาหารมันอาจจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเทคโลยีเท่าไรนักที่จะให้ไปแจ้งอีกฝ่ายหนึ่งทราบ ในความเป็นจริงแล้วฝ่ายการดูแลมันค่อนข้างมีนิยามที่กว้างพอสมควร หากไม่มีทักษะที่สอดคล้องก็ใช่ว่าจะทำได้ดี คล้ายกันกับเวลาที่เราพูดถึงผู้คนที่ต้องทำการตกลงกัน แต่ว่านั่นอาจจะเป็นการตกลงที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลถ้า แต่ละคนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่ต้องการตกลงนั้น ๆ มันก็มักจะก่อเกิดความผิดพลาดร่วมกันอย่างที่เราไม่ได้วางแผนเอาไว้ก่อน เพราะการตกลงอะไรบางสิ่งต้องมีความรู้และทักษะเฉพาะในเรื่องนั้นเสมอ"
- จงมั่นใจให้ได้ว่า ผู้คนที่อยู่บนยอดพีระมิดมีทักษะ รวมไปถึงสามารถโฟกัสการจัดการตามที่ได้แจ้งไปอย่างถ่องแท้ไหม
- ไม่ว่าเราจะมอบหมายงานใดก็ตามให้กับผู้คนใด จงเน้นย้ำว่าคน ๆ นั้นสามารถดูแล จัดการ และทำให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
- หากว่าเราไม่รู้ว่าใครควรที่จะทำงานนี้ เราก็ต้องกระจายงานไป แล้วสังเกตทีท่าของแต่ละคนว่าจะทำงานอย่างไร
- สังเกตเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบว่า เราจะรู้จักผู้คนในองค์กร หรือว่าคนรอบข้างของเราได้อย่างไร
- ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า อะไรควรจะจัดการ หรือว่าใครควรทำหน้าที่ไหน เพียงแต่ว่าบางคนมีทักษะเยอะกว่าที่เราคาดคิดไว้























