การแต่งงานของท่านนบีฯกับท่านหญิงอาอีชะห์และภริยาท่านอื่นๆนั้นเป็นการเลือกสรรมาจากพระองค์อัลลอฮฺทั้งสิ้น
ท่านนบีฯมีความกระตือรือร้นในการสร้างความสัมพันธ์พิเศษระหว่างมุสลิมด้วยกัน ให้ การร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ดูแลกัน ช่วยเหลือจุนเจือกัน
งานแรกของท่านนบีฯที่ได้ทำเมื่อเดินทางมาถึงเมืองมะดีนะห์ คือ การกำหนดสถานที่ ที่จะสร้างมัสยิดของท่าน
เมืองมะดีนะห์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวงของรัฐอิสลาม ตั้งแต่ท่านนบีฯได้มาอาศัยอยู่
ชาวอันศอรและชาวมุฮายิรีน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และข้าทาสจากเผ่าอันนัจยาร ต่างก็ออกมาต้อนรับท่านนบีกันอย่างมีควาสุข
เมื่อท่านนบีฯได้เข้าเมืองมะดีนะห์มาทางทิศเหนือของเมือง
ชาวเมืองมะดีนะห์จากชาวอันศอร และชาวมุฮาญิรีน ต่างก็ออกมารอรับท่านนบีฯที่ทุ่งฮัรเราะห์อย่างใจจ่อเป็นเวลาหลายวัน
ท่านนบีฯจะพูดสิ่งใดนั้น มิใช่มาจากอารมณ์ของท่าน แต่ทว่ามาจากการดลใจจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา
ผู้ที่ละหมาด ถือศิลอดและออกซะกาต ก็เป็นผู้ล้มละลายได้หากไม่ละทิ้งการด่าทอ การนินทา หรือลักขโมย ของผู้อื่น
อัลลอฮฺได้ทรงยกย่องเดือนร่อมะฎอน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการถือศีลอด เหนือเดือนอื่นๆเนื่องพระองค์ได้ทรงประทานอัลกุรอานในเดือนนั้น
เมื่อบ่าวจะคำนวนถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อเขาแล้ว แน่นอนจะไม่สามารถคณานับถึงความโปรดปรานของพระองค์ได้
เดือนร่อมะฎอนเป็นเดือนแห่งผลได้และกำไรอย่างมากมาย บรรดาชาวสลัฟให้ความสำคัญกับเดือนนี้อย่างที่สุด
ท่านนบีฯได้แจงถึงคุณสมบัติของเดือนร่อมะฎอนว่า เป็นเดือนอันจำเริญโดยแท้จริง ในทุกๆขณะของเดือน
ร่อมะฎอนคือเดือนอันประเสริฐและเป็นมหกรรมการประกอบอิบาดะห์อันยิ่งใหญ่ เดือนแห่งความจำเริญและความดีงามมากมาย
เมื่อการค้นหาของชาวกุร็อยชฺหยุดลงท่านนบีและอบูบักรฺ ก็ออกจากถำในเวลากลางคืนเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองมะดีนะห์
ท่านอบูบักร์ได้รับใช้และคอยติดตามท่านนบีฯในระหว่างการเดินทางอพยพไปยังเมืองมะดีนะห์
ท่านอบูบักรฺเป็นผู้ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในการอพยพของท่านนบีฯในครั้งนั้น