DiscoverTK Podcast
TK Podcast

TK Podcast

Author: TK Park

Subscribed: 87Played: 1,911
Share

Description

สารพันเรื่องราวว่าด้วยพื้นที่การเรียนรู้สร้างสรรค์และการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จุดประกายแนวคิดว่าด้วยอนาคตห้องสมุดและการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
267 Episodes
Reverse
หนังสือราคาแพงเกินไปหรือไม่? . หนังสือในตลาดมีความหลากหลายมากพอไหม? . นี่คือสองประเด็นที่มักจะถูกหยิบยกมาเอ่ยถึง เมื่อมีการตั้งคำถามว่า “คนไทยมีโอกาสเข้าถึงหนังสือได้มากน้อยแค่ไหน” และ “อะไรคืออุปสรรคในการเข้าถึงหนังสือ” . สื่ออิเล็กทรอนิกส์ Data Storytelling ชุด “LOOK AROUND THE SHELF” รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหนังสือของไทยในฝั่งผู้ผลิตมานำเสนอให้เข้าใจง่าย เริ่มด้วยการนำข้อมูลมาอธิบายพฤติกรรมการอ่าน แม้ยอดขายหนังสือจะมีขึ้นลงตามปัจจัยที่ต่างกันไปในแต่ละปี แต่แนวโน้มที่เห็นได้ชัดคือ คนไทยอ่านหนังสือเล่มลดลง . ตามมาด้วยการเจาะประเด็นความหลากหลายในเชิงหมวดหมู่หนังสือ ที่ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า นวนิยาย การศึกษา และหนังสือเด็ก ครองสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดมานานหลายปี แม้หลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะบ่งบอกว่า มีความหลากหลายของเนื้อหาหรือไม่ . ประเด็นสำคัญคือ ราคาหนังสือ ที่ในภาพรวมถือว่าสูงเมื่อนำมาเทียบกับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยไม่สามารถตัดสินใจซื้อหาได้ทันที โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการกำหนดราคาคือขนาดของสำนักพิมพ์ . ในเมื่อมีปัจจัยราคาเป็นโจทย์สำคัญ ภาคส่วนต่างๆ ควรทำอย่างไร เพื่อขับเคลื่อนให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงหนังสือและการอ่านได้อย่างเท่าเทียม? . ฟัง “ตลาดหนังสือไทย อะไรเป็นอุปสรรคการเข้าถึงการอ่าน” โดย วัฒนชัย วินิจจะกูล รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ บันทึกในโอกาสงานเสวนาและเปิดตัวสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ Data Storytelling ชุด “LOOK AROUND THE SHELF”
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (UTS) มีแต่อาคารเรียน ไม่มีพื้นที่ว่างและสวน ส่วนห้องสมุดตั้งอยู่นอกมหาวิทยาลัย โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้นักศึกษาเดินทางไปใช้บริการห้องสมุด โครงการ ‘นักสร้างสรรค์ในพำนัก’ ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้คนและชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มศิลปิน เข้ามาร่วมออกแบบ แก้ปัญหา หรือพัฒนาห้องสมุดให้มีภาพลักษณ์อบอุ่นและเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น . โครงการนี้ดำเนินมาแล้วประมาณ 10 ปี แต่ละปีจะมีการตั้งธีมแตกต่างกัน และเปิดรับสมัครผู้สนใจโดยไม่จำกัดเฉพาะนักศึกษาในมหาวิทยาลัย คณะกรรมการจะพิจารณาคุณสมบัติจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ประกอบกับพอร์ตโฟลิโอแสดงผลงาน ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินสนับสนุน 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ค่าวัสดุปกรณ์ พื้นที่ทำงานในห้องสมุด และการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ เป็นระยะเวลา 6 เดือน . เมื่อผ่านการคัดเลือกแล้ว นักสร้างสรรค์ทั้งหลายจะได้รับรายการ ‘ปัญหาและความต้องการ’ จากห้องสมุด เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์มากที่สุด ที่ผ่านมามีรูปแบบผลงานมากมาย เช่น เก้าอี้ซึ่งได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับห้องสมุด UTS การตกแต่งพื้นที่มุมอับเพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น แผนที่ระบุชนิดพันธุ์พืช หรือแม้กระทั่งการทาสีตกแต่งห้องสมุดตามรหัสสีสอดคล้องกับระบบทศนิยมดิวอี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานค้นหาหนังสือได้ง่ายขึ้น . คุณค่าของโครงการ ‘นักสร้างสรรค์ในพำนัก’ คือ ห้องสมุดได้ผู้มีศักยภาพมาร่วมแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันศิลปินก็มีโอกาสผลิตผลงานตามจินตนาการ โดยได้รับความสะดวกอย่างครบครัน และสามารถต่อยอดให้เกิดมูลค่าในอนาคต . ฟัง… การบรรยายเรื่อง “To Reside in Creativity: UTS Library Creative in Residence” บรรยายโดย ไมเคิล กอนซาเลซ (Michael Gonzalez) หัวหน้าบรรณารักษ์ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (UTS) ประเทศออสเตรเลีย บันทึกในโอกาสการประชุม TK FORUM 2023 “Library Possible: The Creative Solutions for Better Library Service”
สมาคมห้องสมุดอเมริกันได้ริเริ่มโครงการ “Library Build Business” ในปี 2020 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการทั่วประเทศ โครงการนี้เชื่อว่า หากผู้ที่ต้องการตั้งเนื้อตั้งตัวเข้าถึงทรัพยากรที่พวกเขาต้องการ ก็จะสามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เมื่อนั้นชุมชนท้องถิ่นก็จะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดังกล่าวด้วย . โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก “google.org” มีห้องสมุดนำร่องร่วมโครงการ 13 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริการทรัพยากรและปัจจัยที่จำเป็นแก่ผู้ประกอบการ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานสามารถช่วยเหลือสมาชิกเกือบ 15,000 คน ทั้งธุรกิจที่ตั้งอยู่ในชุมชนขนาดใหญ่ ชนบท และชนเผ่า . โมเดลการดำเนินงานประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ การจัดการทรัพยากรให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและธุรกิจ มองหาพันธมิตรที่ช่วยทำให้โครงการเข้มแข็งขึ้น และสร้างระบบนิเวศธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีเจ้าหน้าที่ซึ่งเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ . ประสบการณ์จากการดำเนินงานทั้งหมดถูกถ่ายทอดไว้ในหนังสือ “Libraries that Build Business: Advancing Small Business and Entrepreneurship in Public Libraries” และคู่มือ “Libraries Build Business Playbook” เนื้อหาว่าด้วยชุมชนห้องสมุดที่มาร่วมแบ่งปันแนวทางปฏิบัติ ว่าจะจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างไร . ทั้งนี้ แต่ละพื้นที่อาจจะมีโจทย์ไม่เหมือนกัน เช่น บางแห่งอาจต้องการความช่วยเหลือด้านไอที หรือการเขียนโค้ด ขณะที่บางแห่งอาจต้องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ประกอบการด้วยกัน . ฟัง… การบรรยายเรื่อง “The Role of Public Libraries in the Small Business Ecosystem” บรรยายโดย เมแกน จานิกกี (Megan Janicki) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ สมาคมห้องสมุดอเมริกัน สหรัฐอเมริกา บันทึกในโอกาสการประชุม TK FORUM 2023 “Library Possible: The Creative Solutions for Better Library Service”
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านนิเวศการเรียนรู้ อาทิ จำนวนหนังสือที่มีอยู่ในแต่ละบ้าน และการเข้าถึงเทคโนโลยีของเด็กๆ ครอบครัวที่มีฐานะดีกว่าสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้มากกว่าครอบครัวที่ยากจน และหนังสือมีราคาสูง ในขณะที่งบประมาณที่ใช้สำหรับพัฒนาเรื่องการเรียนรู้กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง . โจทย์ดังกล่าวนำไปสู่ข้อเสนอเรื่อง ‘กองทุนพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้แห่งชาติ’ ซึ่งมีกรอบงบประมาณร้อยละ 5 ของงบประมาณรายจ่ายด้านการศึกษาของประเทศ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท แบ่งสำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียน และนอกระบบโรงเรียน ซึ่งได้แก่ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ เวิร์กชอปการเรียนรู้ และการพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ๆ รวมทั้งงบประมาณรายหัวสำหรับสนับสนุนให้นักเรียนและครูเลือกเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตามที่ตนเองสนใจ . หลักการสำคัญของกองทุนพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้แห่งชาติ ประกอบด้วย การเรียนรู้ที่ไม่จำกัดเพียงในโรงเรียนแต่ครอบคลุมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเน้นการกระจายอำนาจในการจัดการให้ผู้คนในพื้นที่มีส่วนร่วม การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ และการให้ผู้เรียนมีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นในการเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง . ฟัง… การบรรยายเรื่อง “กองทุนพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้แห่งชาติ” บรรยายโดย ดร. เดชรัต สุขกำเนิด อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2022 หัวข้อ “Learning City and Lifelong Learning Ecosystem”
โลกเศรษฐกิจไทยในอนาคตกำลังมีความเปลี่ยนแปลงไปใน 3 รูปแบบ คือ โลกเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โลกเศรษฐกิจใส่ใจ ซึ่งเน้นเรื่องของสุขภาพกายและใจ และโลกเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม . โลกใหม่ต้องการแรงงานที่มีทักษะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คนจำนวนหนึ่งอาจตกงาน ในขณะที่บางงานเป็นที่ต้องการมากขึ้น เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ช่างซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ นักจิตวิทยา นักเทคนิคด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ นักการตลาดสีเขียว ฯลฯ การรู้ลึกเพียงศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แรงงานในอนาคตจะต้องมีทั้งความรู้ลึก รู้กว้าง มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดเชื่อมโยง . TDRI ได้วิจัยถึงทักษะแรงงานที่ผู้ประกอบการทั่วประเทศต้องการ พบว่า นอกจากทักษะวิชาชีพแล้ว นายจ้างยังต้องการทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะดิจิทัล ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ รวมทั้ง Soft Skill ต่างๆ เช่น ความสามารถในการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การมีความคิดสร้างสรรค์ การมีความเป็นมืออาชีพ และความสามารถในการปรับตัว . ในขณะที่ ผลการสำรวจของ World Economic Forum และ SEA พบว่า หนุ่มสาวในประเทศไทย 30% เชื่อว่าทักษะที่ตนเองมีอยู่สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต สอดคล้องกับการสำรวจของ OECD ที่พบว่า เด็กไทยกว่า 40% ขาด Growth Mindset คือไม่เชื่อว่าสติปัญญาและความสามารถของตนเองเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้คนรุ่นใหม่ไม่เห็นความจำเป็นในการปรับตัวหรือการเรียนรู้ตลอดชีวิต . โจทย์ที่สำคัญของประเทศไทยคือ สถาบันการศึกษาไม่สามารถผลิตผู้เรียนให้มีทักษะตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นเพราะสถาบันการศึกษามีรายได้ส่วนใหญ่มาจากงบประมาณของรัฐ จึงไม่ต้องรับผิดรับชอบต่อการจัดการศึกษา และผู้เรียนขาดข้อมูลว่าสถาบันการศึกษาที่จะเลือกเรียนต่อ สามารถผลิตบัณฑิตที่มีงานทำในอัตรามากน้อยเพียงใด แนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การสร้างความรับผิดรับชอบของสถาบันการศึกษาให้มีมากขึ้น และขยายโอกาสของคนไทยในการเข้าถึงการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ . ฟัง… การบรรยายเรื่อง “ระบบนิเวศการเรียนรู้กับความเปลี่ยนแปลงของโลกการงานอาชีพและทักษะใหม่” บรรยายโดย ดร.เสาวรัจ รัตนคำฟู ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2022 หัวข้อ “Learning City and Lifelong Learning Ecosystem”
“ถ้าเมืองฉลาดแต่คนไม่ฉลาด ก็คงไปด้วยกันไม่ได้ ขณะเดียวกัน ถ้าคนฉลาดแต่เมืองไม่ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดด้วย ก็คงมีปัญหาไม่แพ้กัน การจะรักษาข้อดีของเมืองให้คงอยู่ และแก้ไขข้อเสียของเมืองให้หมดไป ต้องมีคนที่กล้าคิด กล้าทำ และฉลาดขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองฉลาดขึ้น” . อิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิทัลรวมทั้ง COVID-19 ได้ผลักดันให้โลกใบนี้มีลักษณะแบบ Convergence คือสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและดิจิทัลรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้มนุษย์สามารถมีรูปแบบชีวิตได้ตามที่ตนต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพิงสิ่งที่เป็นกายภาพเสมอไป รวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ให้ดีกว่าเดิม . จากแนวคิดเรื่อง ‘Flow’ ของนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน-ฮังกาเรียน Mihaly Csikszentmihalyi ซึ่งเสนอว่า มนุษย์จะเรียนรู้ได้เร็ว ลื่นไหล และทำสิ่งต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเกิดความสมดุลระหว่างระดับความยากของงานและระดับทักษะที่ตนมี แนวคิดนี้สามารถประยุกต์เป็นแนวทางเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ชาญฉลาด ได้แก่ การเอาตัวเข้าไปมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ (Immersive) การเรียนรู้โดยเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้จากที่ไหนก็ได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้เทคนิคของเกมในการเรียนรู้ (Gamification) และการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถช่วยเติมเต็มการเรียนรู้เหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น . ในอนาคต เทคโนโลยีจะยิ่งก้าวไปไกล และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนรู้ เช่น Metaverse, AR, VR สินทรัพย์ดิจิทัล NFT ฯลฯ ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมพร้อมคนให้มีทักษะความรู้ที่เท่าทัน สนับสนุนให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่บนพื้นฐานของนวัตกรรม มีการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ และสนับสนุนการเติบโตของเทคโนโลยีที่หลอมรวมระหว่างโลกความเป็นจริงและก็โลกเสมือน . อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปไกลแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วก็มีบทบาทเป็นเพียงเครื่องมือไปสู่เป้าหมายที่หวังไว้ มนุษย์ควรเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม โดยคำตอบที่ได้อาจไม่จำเป็นต้องเป็นดิจิทัลเสมอไป . ฟัง… การบรรยายเรื่อง “Smart City, Smart Learning เมืองอัจฉริยะและรูปแบบการเรียนรู้หลังยุคโควิด” บรรยายโดย ดร.นน อัครประเสริฐกุล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Smart City สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2022 หัวข้อ “Learning City and Lifelong Learning Ecosystem”
สังคมไทยถูกอบรมบ่มสอนว่าพุทธศาสนามีความเป็นวิทยาศาสตร์ ช่วยสร้างความภูมิอกภูมิใจในศาสนาพุทธของคนไทยมิใช่น้อย ถึงขนาดกล่าวว่าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หรือจิตวิทยาถูกค้นพบมาก่อนแล้วเมื่อ 2,500 ปีก่อน ซ้ำยังมีความละเอียดลึกซึ้งกว่า . ‘พุทธศาสนาแบบเป็นวิทยาศาสตร์ในสังคมไทย การสืบสวนค้นคว้าทางประวัติศาสตร์’ โดยทวีศักดิ์ เผือกสม จะทำให้เราเห็นว่าความเชื่อข้างต้นมีเหตุปัจจัยทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และลัทธิจักรวรรดินิยมเข้ามาเป็นเงื่อนไขของการสร้างมันขึ้นมาอย่างไร . ศาสนาพุทธแบบเป็นวิทยาศาสตร์เพิ่งถือกำเนิดขึ้นเพียงร้อยกว่าปีในสังคมไทย วิวาทะระหว่างปัญญาชนพุทธและมิชชันนารีโปรเตสแตนต์ก็มีส่วนไม่น้อยต่อสิ่งนี้ อาจบางทีการรู้ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์จะทำให้เราเข้าใจศาสนาพุทธแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ดีขึ้น
ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design and Development Center - UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำวิจัยว่าด้วยการสร้างเมืองบนฐานความรู้ โดยวิเคราะห์โอกาสและข้อจำกัดของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสู่การเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ ตามแนวทางของยูเนสโก . นิยามของเมืองแห่งการเรียนรู้ แบบเข้าใจและสื่อสารง่ายๆ คือ เมืองที่ผู้คนสามารถหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยเมืองมีบทบาทสนับสนุนการจัดหาสาธารณูปการด้านการเรียนรู้ การพัฒนาเมืองให้เอื้อต่อการเรียนรู้ . กรณีตัวอย่างในต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนเมืองด้วยเศรษฐกิจฐานความรู้ มักเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้และวัฒนธรรมการอ่านที่เข้มแข็ง มีอำนาจในการจัดการการเมืองของตน มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ประชาสังคมเข้มแข็ง และผู้คนสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้ง่าย . ในการประยุกต์แนวคิดเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้มาใช้ในประเทศไทย ความท้าทายที่สำคัญคือโครงสร้างการบริหารจัดการเมืองที่รวมศูนย์และแยกส่วน การตัดสินใจเชิงนโยบายสำคัญมักมาจากระดับที่สูงกว่าระดับเมือง ผลคือเกิดการกระจุกตัวของแหล่งเรียนรู้อยู่ในบางพื้นที่ นอกจากนี้ การพัฒนาเมืองส่วนใหญ่มักยึดการดำเนินงานตามพันธกิจ ซึ่งอาจไม่ได้สอดคล้องกับเรื่องการเรียนรู้ รวมทั้ง ขาดแพลตฟอร์มในการเก็บแล้วและกลั่นความรู้ในระดับย่าน . ฟัง... การบรรยายเรื่อง “Knowledge-based City Remaking เมืองการเรียนรู้แห่งอนาคต” บรรยายโดย ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design and Development Center - UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2022 หัวข้อ “Learning City and Lifelong Learning Ecosystem”
การสูญเสียคนรักไม่ว่าจะเป็นคู่ชีวิต ลูก พี่น้อง พ่อแม่ ล้วนนำมาซึ่งความโศกเศร้า มนุษย์เสาะแสวงหาวิธีจัดการความเศร้าโศกที่ได้ผล แต่มันไม่เคยมีวิธีใดที่เป็นคำตอบสำเร็จรูป . Julia Samuel นักจิตบำบัดด้านความเศร้า ผู้เขียน ‘Grief Works: Stories of Life, Death and Surviving’ หรือ ‘คู่มือหัวใจสลาย’ บอกเราความโศกเศร้าของผู้สูญเสียคนที่ตนรัก กระบวนการที่ความเศร้าโศกทำงานกับเรา และการโอบรับมันอย่างเข้าใจ . Julia บอกว่า “เราต้องเคารพและเข้าใจกระบวนการความเศร้า ยอมรับความสำคัญของมัน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเอาชนะได้ด้วยการต่อสู้...แต่ในการเยียวยาความเศร้า เราต้องยอมให้ตัวเองรู้สึกถึงความเจ็บปวด” . เราทุกคนต่างมีวิธีรับมือกับความเจ็บปวดและจังหวะชีวิตที่ความโศกเศร้าทำงานต่างกันออกไปจึงไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อใดที่เราควรหายเศร้า
รากฐานความคิดในการพัฒนาห้องสมุดและการศึกษาฟินแลนด์ มาจากคำๆ หนึ่งคือ sivistys (อ่านว่า ‘ซีวิสตุส’) เป็นคำที่มีความหมายทั้งในเชิงคุณค่าซึ่งเป็นสากลและความมีเอกลักษณ์เฉพาะในเวลาเดียวกัน อาจมีความหมายว่า Respecting Learning, Thinking, Knowing, Education, Culture, Compassion, Open-mindedness แต่ทั้งหมดนี้สะท้อนความเชื่อและอุดมคติของชาวฟินแลนด์ในเรื่องของประชาธิปไตยและความเท่าเทียม โดยที่ห้องสมุดและการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของระบบคุณค่าความเชื่อนี้ . ห้องสมุดจึงเป็นบริการภาครัฐที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน (เข้าฟรี ยืมฟรี) เพื่อส่งเสริมสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษาและวัฒนธรรม เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันและต่อเนื่องตลอดชีวิต ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ รวมถึงผู้อพยพลี้ภัย . นอกจากการให้บริการหนังสือและสื่อการเรียนรู้ ห้องสมุดฟินแลนด์ยังใช้เป็นพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิด (common space) พื้นที่ทำงานร่วมกัน (co-working) เป็น makerspace ที่มีอุปกรณ์เครื่องมือให้หยิบยืมใช้งาน เป็นพื้นที่จัดเวิร์คชอป คอนเสิร์ต และกิจกรรมมากมาย รวมไปถึงการนำเอาบริการภาครัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนมาให้บริการแก่ประชาชนถึงในห้องสมุด อาทิ คลินิกสุขภาพแม่และเด็ก สำนักงานประกันสังคม ศูนย์เยาวชน บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและการบำบัดผู้ติดยา เป็นต้น . ห้องสมุดของฟินแลนด์ยังเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการส่งมอบข้อมูลที่เชื่อถือได้ (Reliable Information) ในยุคที่ข่าวปลอมเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย และเป็นสถาบันสำคัญหนึ่งที่ให้ความรู้กับประชาชนในด้าน Digital Literacy, Media Literacy และ Information Literacy รวมถึงเป็นผู้ปกป้องการพูดและแสดงออกอย่างเสรี (Freedom of Expression and Speech) . ห้องสมุดเมืองเอสโป เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สะท้อนถึงความสำเร็จของห้องสมุดประเทศฟินแลนด์ แนวทางในการพัฒนาห้องสมุดมิได้อยู่ที่การสร้างห้องสมุดที่มีหน้าตาสวยงาม แต่มุ่งเน้นการทำให้ประชาชนเข้าถึงห้องสมุด เป็นเมืองแรกที่ริเริ่มการตั้งห้องสมุดในห้างสรรพสินค้าซึ่งสะดวกในการคมนาคม มีการขยายเวลาเปิดปิดห้องสมุด และเปิด “Open Library” ให้สมาชิกเข้าใช้ในช่วงเวลาที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ . ห้องสมุดประชาชนเมืองเอสโป (Espoo City Library) ได้รับรางวัล Library of the Year 2019 จากเทศกาลหนังสือกรุงลอนดอน และในปีเดียวกัน ห้องสมุดกลางแห่งเมืองเฮลซิงกิ ‘โอดิ’ (Oodi Helsinki Central Library) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพของประเทศฟินแลนด์ จากการเป็นเมืองขึ้นของรัสเซีย ได้รับรางวัลห้องสมุดประชาชนยอดเยี่ยมประจำปี 2019 จากสหพันธ์สมาคมห้องสมุดนานาชาติ (IFLA) . ฟัง... การบรรยายเรื่อง Living and flourishing with change – development of Finnish libraries บรรยายโดย ยาน่า เตือร์นิ (Jaana Tyrni) ผู้อำนวยการห้องสมุดเมืองเอสโป บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2020 หัวข้อ “Finland Library and Education in the Age of Disruption”
การพักผ่อนก็เหมือนการกินคือคุณขาดมันไม่ได้ โลกการทำงานระบบทุนนิยมสร้างเราเป็นหนูถีบจักร ที่ต้องทำงาน ทำงาน ทำงาน จนหลงลืมว่าเราเป็นมนุษย์ที่ต้องการพักผ่อน การพักผ่อนที่ไม่ใช่เพื่อโปรดักทีฟแบบที่หนังสือแนวพัฒนาตนเองบอก . เราต้องการการพักผ่อนเพื่อพักผ่อน เพื่อปรับคันเร่งชีวิต เพื่ออยู่กับตัวเอง ‘พักผ่อนศาสตร์’ ไม่ใช่หนังสือฮาวทู มันบอกเล่า 10 กิจกรรมจากการสำรวจที่ผู้คนเห็นว่าทำแล้วรู้สึกพักผ่อนมากที่สุด แล้วผู้เขียนก็พาไปรู้จักการพักผ่อนแต่ละแบบ ตั้งคำถาม สำรวจแง่มุมต่างๆ อย่างน่าสนใจ . ที่สำคัญ จงมองหาการพักผ่อนของตัวเอง การพักผ่อนที่สอดคล้องกับชีวิต อย่าเลียนแบบใคร เพราะการพักผ่อนของคนคนหนึ่งใช่ว่าจะเหมากับคนอีกคน แล้วรู้อะไรมั้ย? การพักผ่อนที่ผู้ตอบแบบสอบถามยกให้เป็นอันดับ 1 คือการอ่าน
ประเทศฟินแลนด์ เคยเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรป สามารถแก้ไขความยากจนได้โดยการพัฒนาคุณภาพมนุษย์ด้วยการศึกษา กลายมาเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีและประชาชนมีความสุขที่สุดในโลก มีประชากรเพียง 5.5 ล้านคน แต่สถิติการยืมหนังสือสูงถึงปีละกว่า 85 ล้านเล่ม คิดเป็นการยืมหนังสือเฉลี่ยปีละ 15 เล่มต่อคนต่อปี งบประมาณการลงทุนด้านห้องสมุดประชาชน (Public Library) เฉพาะของกระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรมปีละ 320 ล้านยูโร คิดเป็นงบประมาณเฉลี่ยรายหัวประมาณ 58 ยูโรต่อคนต่อปี โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบการบริหารจัดการและสมทบงบประมาณเพิ่มเติมเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง ห้องสมุดประชาชนในฟินแลนด์มีจำนวน 720 แห่ง และมีรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (Book Bus) อีก 135 คัน วิ่งไปตามเมืองต่างๆ 295 แห่งทั่วประเทศ หนังสือเด็กในห้องสมุดมีสัดส่วนประมาณ 32% ของหนังสือทั้งหมด และถูกยืมออกมากถึง 46% ของปริมาณหนังสือรวมที่มีการยืม กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในห้องสมุดที่ไม่เกี่ยวกับการอ่านและการยืมคืนหนังสือ มีคนเข้าร่วมมากถึง 950,000 คนต่อปี กฎหมายห้องสมุดประชาชนปี 2016 (Public Library Act 2016) ทำให้ห้องสมุดประชาชนคือหัวใจสำคัญของการศึกษาในประเทศฟินแลนด์ บรรณารักษ์จะทำงานร่วมกับครูและโรงเรียนใกล้เคียงอย่างใกล้ชิด ดังนั้นโรงเรียนจึงไม่จำเป็นต้องมีห้องสมุดของตัวเอง นอกจากบทบาทการทำงานร่วมกับโรงเรียนแล้ว กฎหมายห้องสมุดประชาชนยังเน้นเรื่องของการเข้าถึง (accessibility) ของคนทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกกีดกัน การสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนทักษะจำเป็นที่หลากหลาย และการสร้างความเป็นพลเมืองที่แข็งขันเอาการเอางาน (active citizenship) ฟัง... การบรรยายเรื่อง How Library Can Promote the Quality of Education: The Experiences from Finland บรรยายโดย แอนนา คอร์ปิ (Anna Korpi) ที่ปรึกษาด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ ประจำสถานทูตฟินแลนด์ในสิงคโปร์ บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2020 หัวข้อ “Finland Library and Education in the Age of Disruption”
มีการค้นพบมากมายบนโลกใบนี้ในสาขาวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปะ ปรัชญา ที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ แต่รู้หรือไม่ ความรู้ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ขับเคลื่อนโลกและยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้เป็นเช่นทุกวันนี้ . หญิงชายจำนวนมากกำลังศึกษาค้นคว้าเพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว โดยมิได้คำนึงถึงว่าจะนำมันไปใช้ประโยชน์อะไร มักซ์ พลังค์ (Max Planck) หรือไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) จัดเป็นคนจำพวกนี้ พวกที่ทำเพราะอยากรู้อยากเห็น แต่กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าถ้าไม่มีพวกเขา โลกที่เราอยู่อาจมีหน้าตาต่างออกไป . รัฐที่มีวิสัยทัศน์จึงควรทุ่มเทให้กับวิจัยและพัฒนา สร้างพื้นที่ให้แก่นักวิทยศาสตร์และนักวิชาการหลากหลายสาขาตอบความสงสัยใคร่รู้โดยไม่ติดกรอบ ติดเพดาน แม้ว่าความรู้ที่ได้นั้นจะไร้ประโยชน์ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าความรู้ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้จะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไรในอีกร้อยหรือพันปีข้างหน้า
ผลสำรวจการอ่าน พ.ศ. 2561 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า แพร่ เป็นหนึ่งใน 10 จังหวัดที่มีนักอ่านมากที่สุด อยู่ในลำดับที่ 7 รองจากจังหวัดใหญ่ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ภูเก็ต ขอนแก่น สระบุรี อุบลราชธานี . ส่วนผู้ที่ศึกษาประวัตินักประพันธ์ไทย จะทราบกันดีว่า จังหวัดแพร่เป็นบ้านเกิดของนักเขียนชื่อดัง - โชติ แพร่พันธุ์ เจ้าของนามปากกา ‘ยาขอบ’ ผู้เขียนนิยาย ‘ผู้ชนะสิบทิศ’ และ ‘สามก๊ก (ฉบับวณิพก)’ เรื่องแรกนั้นมีการนำไปสร้างเป็นละครทีวีหลายครั้ง แต่ละครั้งมีผู้ชมติดตามอุ่นหนาฝาคั่ง ในยุคสมัยที่โทรทัศน์ยังเป็นสื่อหลักที่ทรงอิทธิพลต่อสังคม ขณะที่เรื่องหลังก็มีแนวทางการเขียนอันโดดเด่น จนมีผู้นำไปใช้เป็นกรณีศึกษา หรือกระทั่งเลือกหยิบไปประยุกต์ใช้ในสไตล์การเขียนของตน . เข้าสู่ยุคดิจิทัล รูปแบบและพฤติกรรมการอ่านหนังสือเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตแทบจะสิ้นเชิง... ณ จุดหนึ่งในโลกไซเบอร์ปรากฏเพจชื่อ ‘อ่าน-เปลี่ยน-แป้’ ที่มี ปรัชวินทร์ สมศักดิ์ ซึ่งเป็นคนแพร่โดยกำเนิด ทำหน้าที่แอดมินเพจ ด้วยเป้าหมายที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและทะเยอทะยาน... “เราอยากเห็นวัฒนธรรมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนแพร่ เพื่อสร้างพื้นที่สาธารณะทางการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นจริงในเมืองแพร่บ้านเรา” . เท่านี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดให้ทีมงาน The KOMMON และ TK Podcast เดินทางไปพูดคุยเพื่อทำความรู้จักเพจเล็กๆ ที่ดูเหมือนมีความเฉพาะถิ่นเฉพาะทาง และยังได้ทำความเข้าใจมากขึ้นถึงสภาพสังคมวัฒนธรรมการอ่าน ตลาดหนังสือ และพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้ ของจังหวัดแพร่
จะเคยหรือไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น เราก็ได้ยินเสมอว่าเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นน่าอยู่แค่ไหน สะอาดสะอ้านเพียงใด มีเสน่ห์น่าค้นหาที่ผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนญี่ปุ่นเป็น ‘คนดี’ กว่าที่อื่น? ไม่ใช่แน่นอน . หากเพราะญี่ปุ่นมีการออกแบบกลไกล โครงสร้าง กฎหมาย และสถาบันที่เกื้อหนุนต่างหาก ‘LOVABLE JAPAN เมืองนี้ที่ (คน) รัก’ พาเราไปรู้จักสิ่งเหล่านี้ที่ก่อร่างสร้างความเป็นญี่ปุ่นแบบที่เราเห็น เช่น พื้นที่สาธารณะ เมืองเก่าในญี่ปุ่น หรือเบียร์เสรี เป็นต้น . ถ้าให้สรุปเหลือคำเดียวที่เป็นหัวใจของทั้งหมดทั้งมวล คำนั้นคือ ‘การกระจายอำนาจ’ ใส่ประชาธิปไตยไว้ในมือประชาชน มิใช่การกระจุกอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง
ที่ผ่านมาการดำเนินงานของห้องสมุดส่วนใหญ่เป็นไปตามความสะดวกของเจ้าหน้าที่มากกว่าจะทำไปเพื่อผู้ใช้งาน ห้องสมุดไม่ได้คุยกับผู้ใช้บริการมากพอหรือค้นคว้าว่าพวกเขามีพฤติกรรมและความต้องการอย่างไร หากมีการทำวิจัย ก็มักเป็นเพียงการสำรวจ การสนทนากลุ่ม และเก็บข้อมูลทางสถิติผู้ใช้งานห้องสมุด ซึ่งผิวเผินเกินไปและยังไม่ได้คำตอบว่าสิ่งที่ผู้ใช้บริการอยากได้จริงๆ นั้นคืออะไร . ห้องสมุดสามารถใช้ UX หรือ “User Experience” เป็นเครื่องมือทำความเข้าใจผู้ใช้งานให้มากขึ้น เช่น แผนที่พฤติกรรม การตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตา การทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ เกมสร้างแบบจำลอง จดหมายรักและบอกเลิก ฯลฯ จากนั้น การนำข้อมูลวิจัยไปต่อยอด โดยเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นต้นแบบเพื่อทดสอบกับผู้ใช้งาน เช่น ปรับผังใหม่ หรือสร้างสรรค์บริการใหม่ . การสร้างต้นแบบและทดลองกับผู้ใช้งาน ย่อมไม่สมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก แต่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบและทำซ้ำหลายครั้ง โดยนำบทเรียนความผิดพลาดครั้งก่อนมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อยๆ กล่าวได้ว่า ความล้มเหลวคือก้าวย่างสู่ความสำเร็จ . ฟัง... การบรรยายเรื่อง “Libraries are for users: the value and application of UX research and design” บรรยายโดย แอนดี้ พรีสต์เนอร์ (Andy Priestner) ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวิจัยประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) สหราชอาณาจักร บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2021 หัวข้อ “Library and Public Space for Learning”
ปี 2513 ภาพยนตร์เรื่อง ‘มนต์รักลูกทุ่ง’ ประสบความสำเร็จล้นหลาม และด้วยอีกหลายปัจจัย เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบันเทิง รัฐ ช่วยกันผลิตสร้าง-ผลิตซ้ำภาพจำต่อชนบทไทยให้แช่แข็งอยู่กับความเป็นมนต์รักลูกทุ่ง บรรยากาศสงบงาม ผู้คนน้ำใจดี ใสซื่อ ฯลฯ . ‘ลืมตาอ้าปาก จาก “ชาวนา” สู่ “ผู้ประกอบการ”’ ที่สรุปมาจากโครงการวิจัยอีกทีหนึ่งจะทลายภาพความทรงจำเหล่านี้ ชวนไปทำความรู้จักชนบทในแบบที่มันเป็นจริงๆ เมื่อชาวนาไม่ได้กำเคียวยิ้มแย้มแบบมิวสิควิดีโอประกอบเพลงชาต แต่ผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการที่มีจิตสำนึกใหม่ เครือข่ายใหม่ อารมณ์ใหม่ และความสัมพันธ์แบบใหม่ . ลบภาพมนต์รักลูกทุ่งออกไป ทำความเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในชนบท นอกจากจะช่วยให้หยุดแช่แข็งความทรงจำแล้ว ยังจะทำให้การกำหนดนโยบายสาธารณะตอบโจทย์ความเป็นจริงได้ดีกว่าที่เป็นอยู่
จังหวัดพะเยาก็มีพื้นที่ปลูกกาแฟ ชาและกาแฟของพะเยาก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่ไม่ค่อยมีใครรู้... เป็นที่มาของอีเวนต์กาแฟชื่อ Phayao Coffee & Tea Lovers ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2563 . และเพราะงานอีเวนต์นี้นี่เอง ที่ทำให้คนรุ่นใหม่จากหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งที่บางคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ทั้งหมดมีความชอบเหมือนกันอย่างหนึ่ง คือการทำกิจกรรม จึงได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน จนกระทั่งผูกพันรวมตัวกันเป็นกลุ่ม Phayao Lovers . หลังจากอีเวนต์แรก พวกเขายังร่วมกันจัดงานสร้างสรรค์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในจังหวัด จนเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจ ด้วยแนวทางสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง และค่อยๆ แก้ปัญหาอุปสรรคไปทีละเปลาะ ยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้มั่นใจว่าเดินมาถูกทาง เพราะผลลัพธ์จากการจัดอีเวนต์ในพื้นที่สาธารณะ ไม่เพียงก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางตรงกับชุมชน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจหรือรายได้ แต่ยังมีผลพลอยได้ในเรื่องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นของคนในชุมชน . กลุ่ม Phayao Lovers เริ่มต้นมาจากอีเวนต์กาแฟ แต่ในวันนี้พวกเขากำลังขยายความสนใจไปยังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงกับสินค้าชุมชนและวิถีวัฒนธรรมของพะเยา และอยากเห็นการพัฒนาพื้นที่สาธารณะกระจายไปทั่วทั้งเมืองทั้งจังหวัด เพราะมองว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญอันหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมือง เพิ่มรายได้ให้ชุมชน และส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ . ฟัง... เรื่องราวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในจังหวัดที่กำลังถูกจับตามองด้านความคิดสร้างสรรค์ จากอีเวนต์ที่โดดเด่นต่อเนื่องหลายงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เบื้องหลังความคิดและวิธีการทำงานของพวกเขาจึงทำให้คำว่า ‘รักบ้านเกิด’ ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดสวยๆ แต่แสดงออกด้วยการลงมือทำ . ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการทำด้วยความสนุกและมีความสุขที่ได้ทำ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริงในจังหวัดที่พวกเขารัก
ชีวิตมนุษย์เดินทางจากจุดเริ่มต้นมาไกลมากในแง่เทคโนโลยี เราอยู่ในยุคดิจิทัลที่สามารถพูดคุยกับคนอีกซีกโลกหนึ่งได้โดยไม่ต้องออกจากห้องนอนผ่านสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว เทคโนโลยีเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ได้ในชั่วระยะเวลาเพียงคนรุ่นเดียว . แต่สมองไม่ได้วิวัฒนาตัวมันได้เร็วขนาดนั้น มันยังคงเป็นสมองที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาเมื่อ 100,000 ปีก่อน ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบให้จมอยู่กับสมาร์ตโฟนหลายชั่วโมงต่อวัน . ยิ่งเราอยู่กันแอปฯ สารพัดในสมาร์ตโฟนนานเท่าไหร่ ยิ่งหมายถึงรายได้ของแอปฯ นักออกแบบจึงเสาะวิธีดึงดูดสมองของเราและมันได้ผล มันดึงดูดสมองแบบทุ่งหญ้าสะวันนาไว้ได้อยู่หมัดซึ่งขัดกับพฤติกรรมทางกายที่ควรจะเป็นจนส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตตามมา . ‘Smart Phone Brain’ หรือ ‘เมื่อสมาร์ตโฟนปฏิวัติสมอง’ บอกเล่าผลกระทบจากสมาร์ตโฟนผ่านทฤษฎีวิวัฒนาการได้ชวนติดตาม พร้อมกับเสนอวิธีแก้ที่แสนง่าย (แต่แอบยากอยู่ในที)
ฟังเรื่องราวน่าประทับใจที่เกิดขึ้นในฤดูหนาว จากนิทานภาพเรื่อง じんせつな ともだち (เพื่อนคนสำคัญ) โดย Fang Yiqun และ Tomoyoshi Murayama เรื่องราวแห่งมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้งสี่ คุณกระต่าย คุณลา คุณแพะ และคุณกวาง กับการกินอยู่อย่างพอดี การแบ่งปัน และการมอบความห่วงใยที่ส่งต่อให้กันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นนิทานที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดีต่ออารมณ์และจิตใจ
loading
Comments 
Download from Google Play
Download from App Store