Discoverรู้ขณะเดียววันที่4_12 ปฏิบัติไปสู่การทำที่ไม่ต้องกระทำ พจ.กระสินธุ์ 151063
วันที่4_12 ปฏิบัติไปสู่การทำที่ไม่ต้องกระทำ พจ.กระสินธุ์ 151063

วันที่4_12 ปฏิบัติไปสู่การทำที่ไม่ต้องกระทำ พจ.กระสินธุ์ 151063

Update: 2021-01-07
Share

Description

ส่วนสรุปเนื้อหา


  • วันนี้ ให้พวกเราฝึกหัดปฏิบัติ ตามที่ได้บอกเทคนิคต่างๆ ไปแล้ว ‘การฟัง’ จากคำพูด แม้มากมายเป็น ร้อยคำ พันคำ ถึงแสนคำ ก็ไม่สู้ ‘การกระทำ’ เพียงครั้งเดียว
    1. สิ่งใดที่ได้อ่าน ได้ฟัง ทั้งหมด เป็นเพียง ‘ข้อมูลดิบ’ ต้องนำไปสู่ ‘การปฏิบัติ’ จึงจะได้ ‘ข้อมูลจริง’ เห็นผลจริง และสามารถนำไปใช้ได้จริง

    2. แต่ การกระทำนี้ ก็ต้องการ ‘คนจริง’ และต้อง ‘ทำจริง’ ไม่เหลาะแหละ จึงจะเห็น ‘ผลจริง’----more----


  • ในระบบการศึกษาปกติ เขามีการเรียนการสอน ‘ภาคทฤษฎี’ ก่อน แล้ว ‘ลงมือทำ’ จึง ‘ได้ผล’ การเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา ก็มี ปริยัติ หรือ ทฤษฎี, ปฏิบัติ หรือ ลงมือกระทำ และ ปฏิเวธ หรือ ผลที่ได้รับ เช่นเดียวกัน เพียงใช้คำที่แตกต่างกัน

  • หากเข้าใจสิ่งที่ฟังมาภายใน 2-3 วันนี้แล้ว ‘การทำ’ ไม่ใช่เรื่องยากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ‘การทำที่ไม่ต้องกระทำ’ เพราะฉะนั้นให้ฝึกแบบ "ฝึกการกระทำไปสู่ที่..ไม่ต้องทำ" ไม่ใช่ฝึกแบบ "ฝึกการกระทำไปสู่..การกระทำ ไม่เลิก" ดังนั้นให้ฝึกจิตเป็นเพียงผู้ดู ->ดูอะไร..ดูอารมณ์ทำงาน จนถึงขั้น ‘จิตปล่อยวางอารมณ์เป็น’ มี ‘สติ’ และ ‘อุเบกขา’ เกิดขึ้น

  • วิธีการทำมี 2 ขบวนการ คือ


  1. ทำขึ้น เพื่อฝึกซ้อมการรับรู้

  2. รับรู้ แบบ ไม่ต้องทำ

  • เมื่อฝึกบ่อยๆ จิตจะสามารถบริหารจัดการตนเองเป็น ว่า บางช่วงบางเวลา-ต้องทำขึ้น แต่บางเวลาก็-ไม่ต้องทำ -> เกิดภาวะ ‘ความรู้สึกตัว’ ได้ทั้งสองแบบ และเมื่อ ‘รู้’ แล้ว ก็ ‘ปล่อยไป’

  • อธิบายเปรียบเทียบได้กับสีที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อนำผสมลงในน้ำแล้ว คนให้เข้ากัน จะทำให้น้ำเป็นสีนั้นๆ ต่อเมื่อตั้งทิ้งไว้นานๆ สีจะตกตะกอนลงนอนก้น ทำให้น้ำใสขึ้น ‘จิต’ เปรียบเสมือนน้ำ เมื่อถูกอารมณ์ หรือสี พัวพันรายล้อมอยู่รอบตัวไปหมด หากเราทำได้ถึงขั้น ฝึกจิตให้สามารถอยู่ท่ามกลางอารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่รายล้อมอยู่ได้ นี่เรียกว่า ‘ปฏิเวธ’ คือจิตสามารถอยู่ได้ท่ามกลางอารมณ์แบบไหนก็ได้ โดยที่ไม่เป็นไปตามอารมณ์นั้นๆ
    • ต่อไปก็ให้แยกย้ายกันไปภาวนา




 


รวมตัวกันก่อนไปรับประทานอาหาร :


เมื่อเช้ามี คำถาม ว่า ‘การนั่งภาวนาหลับตา’ ต่างกันอย่างไรกับ ‘การภาวนาแบบเคลื่อนไหวลืมตา’ นี้


ตอบ ได้ว่า : ต่างกันที่ ‘วิธีการ’ เท่านั้น ส่วน ‘เป้าหมาย’ ไม่ต่างกัน เพราะ คือการฝึกหัดสร้าง ‘สติ สัมปชัญญะ’ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน แต่ ‘การสร้างจังหวะ’ เป็นการกระตุ้น ‘ความรู้สึกตัว’ ได้ง่ายกว่า และเอื้อต่อการภาวนาในชีวิตประจำวัน ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ได้ดีกว่า


  • ที่จริงจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบไหนก็ได้ จะยืน เดิน นั่ง หรือนอนก็ได้ หรือจะจัดแจงท่าใหม่ เทคนิคใดๆ ขึ้นมาเองก็ได้ หากสามารถทำให้ ‘ความรู้สึกตัว’ เกิดได้อย่างต่อเนื่อง ก็ใช้ได้ทั้งนั้น

  • เดี๋ยวพวกเราไปกินข้าว ก็สามารถหัดภาวนาไปด้วยได้ ตักอาหาร อ้าปาก เคี้ยวอาหาร วางช้อน พลิกมือ วางมือ เป็นต้น ใหม่ๆ จิตจะวิ่งตามอารมณ์ คำสั่งในหัวสมองที่มีเยอะมาก ให้ฝึกฝืน ไม่ทำเร็วๆ ไม่กินตามคำสั่งของตัณหา แต่ให้เกิดสติ รู้สึกตัว ฝึกดูพฤติกรรมการกินอาหารของตนเอง ให้ค่อยๆ ฝึกไป ฝึกเล่นๆ ‘อยู่กับวิถีชีวิตที่ตื่นรู้’ อย่าอยู่กับความคิด – รับรู้ทางจมูกบ้าง รับรู้ทางลิ้นบ้าง รับรู้ทางกายบ้าง - ว่าเป็นอย่างไร -> เป็นเพียง ‘ผู้ดู-ผู้รู้’ อย่าเป็น ‘ผู้เป็น
    • ให้ฝึกไปก่อน ฝึกมากๆ แล้วจะพบว่า คำถามต่างๆ จะค่อยๆ ลดน้อยลง.




ช่วงนาทีของเนื้อหา : 01:03 ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ 05:46 ขบวนการทำขึ้น และไม่ได้ทำขึ้น 12:22 เงียบเสียง พอจ.ให้แยกกันไปภาวนา 12:28 มารวมตัวกัน ก่อนจะไปทานอาหาร


ธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์กระสินธุ์ อนุภัทโท คอร์ส"พ่อแม่พาธรรม"  วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เช้า ณ บ้านจิตสบาย


ช่องทางอื่นๆในการรับสื่อธรรมะ


YouTube, FaceBook พระอาจารย์กระสินธุ์


Podcast : รู้ขณะเดียว


ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ติดตามรับฟัง..สาธุ

Comments 
loading
In Channel
loading
00:00
00:00
1.0x

0.5x

0.8x

1.0x

1.25x

1.5x

2.0x

3.0x

Sleep Timer

Off

End of Episode

5 Minutes

10 Minutes

15 Minutes

30 Minutes

45 Minutes

60 Minutes

120 Minutes

วันที่4_12 ปฏิบัติไปสู่การทำที่ไม่ต้องกระทำ พจ.กระสินธุ์ 151063

วันที่4_12 ปฏิบัติไปสู่การทำที่ไม่ต้องกระทำ พจ.กระสินธุ์ 151063

พระอาจารย์กระสินธุ์ อนุภัทโท