หริตมาตชาดก ชาดกว่าด้วย ผู้มีอิสระภาพ
Description
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่แคว้นโกศล เมื่อพระเจ้ามหาโกศลได้พระราชทานพระธิดาผู้มีสิริโฉมงดงามให้แก่พระเจ้าพิมพิสาร ทั้งสองพระองค์ครองรักกันอย่างมีความสุข และต่อมาพระเทวีก็ให้กำเนิดพระโอรสที่น่ารักน่าเอ็นดู นามว่า พระเจ้าอชาตศัตรู. แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูกระทำปิตุฆาตกรรม ปลงพระชนม์พระบิดาของตนเอง. ไม่นานนัก พระเทวีผู้เป็นมารดาก็สิ้นพระชนม์ลงด้วยความเสน่หาต่อพระเจ้าพิมพิสาร.
หลังจากนั้น พระเจ้าโกศล ผู้เป็นโอรสของพระเจ้ามหาโกศล และมีศักดิ์เป็นน้าของพระเจ้าอชาตศัตรู ทรงโกรธแค้นพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดสงครามระหว่างพระเจ้าโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรูขึ้น. สงครามดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ บางคราวพระเจ้าน้าก็ชนะ บางคราวพระเจ้าหลานก็ชนะ สับเปลี่ยนกันไปมาอย่างไม่รู้จบ. ทุกครั้งที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงชนะ พระองค์จะทรงโสมนัส ปักธงชัยเข้าสู่พระนครด้วยยศอันยิ่งใหญ่ แต่ถ้าคราวใดทรงปราชัย พระองค์จะทรงโทมนัส เสด็จเข้าสู่พระนครโดยไม่ให้ใครทราบ. เรื่องราวพฤติกรรมของพระเจ้าอชาตศัตรูนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์.
ครั้งนั้น องค์พระศาสดา เมื่อได้ยินหัวข้อที่เหล่าภิกษุสนทนา ก็ได้ตรัสว่า ไม่ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้แต่ในกาลก่อน พระเจ้าอชาตศัตรูก็เคยมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน คือเมื่อชนะก็ดีใจ เมื่อแพ้ก็เสียใจ. แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสเล่า หริตมาตชาดก (ชาดกว่าด้วยผู้มีอิสรภาพ) ดังนี้.
ณ แม่น้ำท้ายป่าใหญ่แห่งหนึ่ง สมัยที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านนิยมดักลอบจับปลาในแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารยังชีพ. มีงูตัวหนึ่งเลื้อยผ่านมาเห็นปลาจำนวนมากติดอยู่ในลอบ ก็คิดแผนการร้าย หวังจะเข้าไปกินปลาเหล่านั้น. ฝูงปลาที่อยู่ในลอบเมื่อเห็นงูเลื้อยเข้ามาใกล้ก็แตกตื่นหวาดกลัว แต่มีปลาตัวหนึ่งกล่าวขึ้นว่า "พวกเรามีกันตั้งหลายตัว ทำไมต้องกลัวแค่งูตัวเดียวด้วย ถ้าพวกเราช่วยกัน งูตัวเดียวทำอะไรเราไม่ได้หรอก".
งูซึ่งหวังจะได้ลิ้มรสอาหารมื้อใหญ่ ไม่ฟังเสียงใดๆ ของพวกปลา ด้วยความหิวจึงเลื้อยเข้าไปในลอบหมายจะกัดกินปลา. แต่ทันทีที่งูเข้าไปในลอบ ฝูงปลาทั้งหมดก็รุมกัดงูจนเป็นแผลเหวอะหวะไปหมด. งูได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตะโกนขอความช่วยเหลือจาก กบเขียว ตัวหนึ่งที่นอนอยู่ริมฝั่ง ซึ่งได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด.
กบเขียวยังคงวางเฉย โดยกล่าวว่า "ข้าเห็นแล้ว แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทำไมเราต้องช่วยท่านด้วยล่ะ". งูยิ่งได้รับความทุกข์ทรมานมากขึ้น จึงอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออีกครั้ง โดยชี้ว่าตนเป็นฝ่ายถูกรังแก โดนปลารุมกัดเพียงลำพัง. กบเขียวจึงกล่าวเตือนสติงูว่า หากมีปลาหลงเข้าไปในถิ่นของงู ปลาตัวนั้นก็คงถูกรุมกัดกินเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถช่วยงูได้. งูยอมรับว่าถูกต้อง แต่ก็ยังคงขอให้ช่วย. กบเขียวมองดูงูที่ถูกปลากัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ ถอนหายใจแล้วกระโดดจากไป ปล่อยให้งูอยู่กับปัญหาที่ตนก่อไว้.
เมื่อกบเขียวจากไปแล้ว ฝูงปลาก็กรูกันเข้ามากัดกินงูที่เข้ามาทำร้ายพวกตนถึงในลอบ งูทนความเจ็บปวดไม่ไหว สิ้นใจตายในลอบนั้นเอง.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุดชาดกว่า งูในครั้งนั้นได้มาเกิดเป็นพระเจ้าอชาตศัตรูในครั้งนี้ ส่วนกบเขียวเสวยพระชาติเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.